วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 606 ชั้น 6 อาคารรัฐสภา ว่าที่เรือตรียุทธนา สำเภาเงิน รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายที่เสนอโดย สส.หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปสู่ภาคประชาชน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาการรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ได้รับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายที่เสนอโดยสส.หรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เรื่อง “ ร่างพ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. ....” โดยมี นายสัณห์ชัย สินธุวงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ได้รับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายที่เสนอโดยสส.หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กล่าวรายงาน ในการนี้ สส. ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และองค์กรภาคประชาสังคมด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้มีความหลากหลายทางเพศและกลุ่มชาติพันธุ์ ผู้บริหาร บุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมสัมมนา

จากนั้น นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ผู้เสนอร่างกฎหมาย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กมธ. กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร น.ส. สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายวัลลภ ตังคณาวนุรักษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ร่วมเสวนาและอภิปราย หัวข้อ " สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... และการผลักดันให้บุคคลทุกคนปลอดพ้นจากการเลือกปฏิบัติ" ดำเนินรายการโดย น.ส. ธัญพิชชา วงศ์อัศวเวศย์ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการฯ

โครงการสัมมนาดังกล่าวจัดโดย คณะกรรมการขับเคลื่อนรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายที่เสนอโดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปสู่ภาคประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเวทีการมีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปสู่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมาย โดยการระดมความคิดเห็น รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปใช้ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำรายงาน วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายและเสนอต่อรัฐสภาต่อไป