นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส. พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยตัวแทนภาคีเครือข่าย เพื่อขอให้พรรคการเมืองผลักดันนโยบายจัดสวัสดิภาพสัตว์ ป้องกันการทารุณกรรม

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.45 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส. พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยตัวแทนภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย องค์กรพิทักษ์สัตว์ไทย มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ มูลนิธิเพื่อสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกประเทศไทย องค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งประเทศไทย องค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทย มูลนิธิรักษ์สัตว์ป่า และตัวแทนนักแสดงคนรักสัตว์ เพื่อขอให้พรรคการเมืองผลักดันนโยบายจัดสวัสดิภาพสัตว์ ป้องกันการทารุณกรรม สืบเนื่องจากตั้งแต่ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง ยังไม่มีรัฐบาลใดให้ความสนใจที่จะแก้ปัญหาสวัสดิภาพของสัตว์ในประเทศไทยอย่างจริงจังและจริงใจ โดยเฉพาะพรรคการเมืองส่วนใหญ่ต่างให้เหตุผลว่าปัญหาประชาชนต้องมาก่อน ดังนั้น ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสัตว์จึงถูกละเลย ซุกซ่อนปัญหามาเป็นเวลายาวนาน โดยทุกยุคทุกสมัยของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ให้เหตุผลว่าปัญหาสัตว์ไม่เกี่ยวกับคน แต่ข้อเท็จจริงแล้วปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากการละเลยการดูแลชีวิตสัตว์ในประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อพลเมืองโดยรวมทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งการละเลยในการแก้ไขปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ ทำให้เกิดการระบาดของโรคที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อประชาชนได้ การสูญเสียจำนวนสัตว์เลี้ยงในฟาร์มปศุสัตว์ในรอบหลายปีที่ผ่านมาจากโรคระบาด อาทิ การล้มตายของวัวจากโรคปากเท้าเปื่อย โรคลัมปีสกิน โรคไข้หวัดหมู และไข้หวัดนก ต่างส่งผลกระทบต่อเกษตรกร สร้างความสูญเสียต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมายต่อการค้าสัตว์ป่า การทารุณกรรมสัตว์ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการแก้ไข ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มจับตามองจากนานาชาติเกี่ยวกับการนำเข้าสัตว์ป่า และการปล่อยให้มีการใช้สัตว์ป่าอย่างไม่เหมาะสม ขณะที่ภาคประชาชนได้พยายามหาทางแก้ปัญหากันเองด้วยการออกงบประมาณส่วนตัวในการช่วยเหลือสัตว์ ทั้งนี้ ได้มีการติดตามประเมินผลการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลสัตว์ พบว่ารัฐบาลขาดความจริงใจในการแก้ปัญหาจึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เตรียมลงเลือกตั้งเข้าไปเป็นรัฐบาลสมัยหน้า ให้นำปัญหาดังกล่าวไปพิจารณาและจัดตั้งนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ในประเทศไทยให้เข้ากับสภาวะของการขับเคลื่อนการอนุรักษ์สัตว์ให้ทัดเทียมสากลโลก โดยมีข้อเสนอและข้อเรียกร้อง อาทิ การปรับปรุง และแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายการทารุณกรรม โดยเฉพาะบทกำหนดโทษของกฎหมายเพื่อให้เป็นมาตรฐานต่อการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลปัญหาสวัสดิภาพภาพสัตว์ในประเทศไทยโดยตรง โดยจัดตั้งคณะ กมธ. คณะอนุ กมธ.ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ ทำหน้าที่พิจารณาปัญหาสัตว์ในประเทศไทย ทั้งสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด สัตว์เศรษฐกิจในฟาร์มปศุสัตว์ สัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ป่า และสัตว์นำเข้า ส่งออก สัตว์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอาหาร ตลอดจนจัดตั้งหน่วยงานที่ทำงานโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ อาทิ หน่วยตำรวจปราบปรามและช่วยเหลือสัตว์ (Animal Cops) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือและกู้ภัยสัตว์ รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายจัดตั้งกองจัดการสวัสดิภาพสัตว์ของเทศบาล ตำบล หรือ อบต.ในทุกท้องถิ่น เพื่อควบคุมและป้องปรามการทารุณกรรมสัตว์ในท้องถิ่นต่อไป