นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า การย้ายครั้งนี้ได้สร้างความหม่นหมองต่อวงการสาธารณสุข  เป็นการส่งสัญญานว่าหากไม่เชื่อฟังจะถูกย้าย สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเห็นภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ และค่อนข้างผิดหวังที่เห็นฝ่ายการเมืองกระทำแบบนี้โดยเฉพาะกับที่ทำกับนพ.สุภัทร ไม่แน่ใจว่าการทำแบบนี้เป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง เป็นการรังแกหมอที่ดี รังแกคนที่ต้องการปกป้องชุมชน ปกป้องพี่น้องประชาชน ต้องชื่นชมว่านพ.สุภัทร ไม่ได้ทำหน้าที่หมอเพียงอย่างเดียวแต่พยายามใช้เครดิตความเป็นหมอเพื่อต่อสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชนหลายเรื่องที่อำเภอจะนะเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ก็เพราะท่าน ดังนั้นความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับนพ.สุภัทร เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ตนในฐานะ กมธ.กฎหมายฯ จะนำเรื่องที่ได้รับในวันนี้ ไปหารือในคณะ กมธ.  และจะผลักดันให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ การรับหนังสือครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงตนในฐานะ กมธ. แต่มีเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ขอให้กำลังใจการต่อสู้ของพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับนพ.สุภัทร ความอยุติธรรมและการสร้างความหวาดกลัวเช่นนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือต้องช่วยกันหยุดความหวาดกลัว หยุดความอยุติธรรม หยุดการรังแกข้าราชการน้ำดี

จากนั้น นายประเสริฐพงษ์  ศรนุวัตร์ ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า พี่น้องที่เดินทางมาในวันนี้ เพราะมีความรักและผูกพันกับนพ.สุภัทร ซึ่งท่านไม่ได้อุทิศตนเฉพาะการเป็นหมอเท่านั้น แต่ท่านอุทิศตนเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และนั่งอยู่ในใจของพี่น้องประชาชน เมื่อถูกย้าย ถูกอำนาจรัฐรังแก พี่น้องประชาชนจึงออกมารวมตัวกันปกป้อง นี่คือสิ่งที่เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าพี่น้องประชาชนมีความรักผูกพันกับนพ.สุภัทร และต้องการเรียกร้องไปยังบุคลากรทางการแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่มีความเข้าใจและเห็นใจ ขอให้มีความกล้าและเป็นกำลังใจให้กับหมอที่ดีอย่าง นพ.สุภัทร เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกกับหมอหรือผู้อำนวยการท่านอื่น ๆ ในประเทศไทย วันนี้พี่น้องประชาชนตั้งคำถามว่า การกระทำเช่นนี้คือการแทรกแซงและผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ ส.ส. หรือรัฐมนตรีจะต้องไม่มีอำนาจแทรกแซงการโยกย้ายบุคคลที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน เรื่องแบบนี้ต้องเข้าสู่คณะ กมธ. เพื่อปกป้องรักษาหมอที่ดี