 |
|
|
 |
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ รับยื่นหนังสือจาก นายต้นน้ำ นิยมาภา บุตรชายของนายบัณฑูร นิยมาภา ผู้ได้รับการขนานนามว่า บิดากัญชาไทยภาคประชาชน และคณะ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566 |
|
|
|
|
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11.50 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ รับยื่นหนังสือจาก นายต้นน้ำ นิยมาภา บุตรชายของนายบัณฑูร นิยมาภา ผู้ได้รับการขนานนามว่า บิดากัญชาไทยภาคประชาชน และคณะ เพื่อแสดงความขอบคุณที่เสนอนโยบายเพื่อพัฒนากัญชา ในแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งแสดงจุดยืน ในการดำเนินการทางนโยบายและการปฏิบัติดังนี้
1. กัญชา จะไม่กลับไปเป็นยาเสพติด แต่เป็นกัญชาทางการแพทย์ เศรษฐกิจและสังคม 2. รัฐผลิตยากัญชาให้เพียงพอ ประชาชนเข้าถึงได้ เป็นการแพทย์ทางเลือกตามสิทธิมนุษยชน 3. ครัวเรือน "ปลูกได้ ใช้เป็น" โดยให้มีการจัดการศึกษากัญชาศาสตร์ถ้วนหน้าในทุกวิชาชีพของ บุคลากรด้านการสาธารณสุข มีการเรียนการสอนกัญชาศาสตร์พื้นฐานให้ประชาชนทุกวัยถ้วนหน้า เพื่อ การใช้อย่างปลอดภัย และปกป้องสังคม 4. พัฒนาการแพทย์ผสมผสาน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 55 ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคที่รุนแรง เรื้อรัง ด้วยสมุนไพรการแพทย์แผนไทยร่วมกับ การแพทย์แผนปัจจุบัน กำหนดโรคที่ควรใช้ การแพทย์ร่วมสมัย หากประชาชนต้องการ 5. จัดตั้งหน่วยงานระดับชาติสนับสนุนและกำกับดูแลเป็นเอกภาพให้ภาคประชาชนสะดวก เข้าถึงง่าย มีวิชาการ มีตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศและวิธีอื่นใดที่จะส่งลให้ กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ในอนาคต รายได้จากกัญชาและพืชสมุนไพรควบคุมให้เป็นรายได้แผ่นดิน ใช้หนี้สาธารณะและคืน เป็นสวัสดิการให้ประชาชนได้ในอนาคต 6. สนับสนุนให้ภาคประชาชนเข้มแข็ง กำกับดูแลการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่มีพลวัตพัฒนา ได้ทันการเปลี่ยนแปลงของกระแสกัญชาโลก พร้อมทั้งความหวังว่ารัฐบาลหน้าจะจัดการให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต ประเทศไทยเป็นจุด ศูนย์กลางในการแพทย์ร่วมสมัย ประชาชนและเกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดย นายระวี มาศฉมาดล กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอขอบคุณที่เห็นถึงความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากกัญชา พรรคพลังธรรมใหม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่า คัดค้านกัญชาเสรี แต่ในทางกลับกันก็ได้คัดค้านการที่จะนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ทางพรรคเห็นว่ากัญชาต้องเป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์ เศรษฐกิจและสังคม โดยกัญชาสำหรับครัวเรือน ต้องปลูกได้และใช้เป็น เพื่อใช้ในครัวเรือนอันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้ รัฐต้องออกกฎหมายที่มีความเหมาะสม เคร่งครัด ชัดเจน เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติเพื่อบังคับใช้ |
 |
 |
 |
 |
|