วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 11.20 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ นายพัฒนา สัพโส นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส. พรรคพลังปวงชนไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.พรรคเพื่อชาติ และนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ยื่นหนังสือต่อ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้เสนอเรื่องไปประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
สืบเนื่องจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 144 วรรคสอง ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หรือคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเสนอการแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ. มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย โดยข้อหาจะเป็นกรณีการใช้นอมินีในการถือหุ้น ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง รวมทั้งบริษัทแห่งนี้รับงานภายในกระทรวงคมนาคม เข้าข่ายเอื้อผลประโยชน์ต่อบริษัทดังกล่าว
นายชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการกล่าวหาว่าใช้นอมินีถือครองหุ้นในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง แม้ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ลาออกจากการถือครองหุ้น แต่ทางผู้ยื่นหนังสือเล็งเห็นว่าเป็นการกระทำโดยพฤตินัยของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบยังคงเป็นเจ้าของบริษัทนั้น โดยที่พนักงานที่นำมาถือครองหุ้นแทนไม่มีศักยภาพในการถือหุ้น อีกทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ยังคงรับงานเหมางานภายในกระทรวงคมนาคม ทำให้เข้าข่ายเอื้อผลประโยชน์ โดยทำให้เข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 144 วรรคสอง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง โดยปรากฎชัดเจนว่าในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563, 2564, 2565 และ 2566 ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้เสนอตั้งงบประมาณกระทรวงคมนาคม ได้กระทำการทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการปกปิดทรัพย์สินของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนแห่งหนึ่ง ได้รับเหมางานของกระทรวงคมนาคม หลายโครงการนั้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง โดยมีมาตรา 144 วรรคสอง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงคมนาค ซึ่งเป็นผู้รับเหมาที่เป็นนอมินีเป็นผู้รับเหมาเสียเอง จึงทำให้ผิดรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายพัฒนา สัพโส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาลว่า งบประมาณของกระทรวงคมนาคม ใน พ.ศ. 2563 2664 และ 2565 ไปกระจุกตัวที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นส่วนใหญ่ |