วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา 10.50 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คนที่หนึ่ง พร้อมด้วย นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หก นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย ร่วมรับยื่นหนังสือจาก นายกิตติวัฒน์ อึ้งเจริญ ผู้แทนนักเรียนนักศึกษาที่กู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และคณะ เรื่อง ขอคัดค้านการมีเบี้ยปรับ และดอกเบี้ยของกองทุนกู้ยืมทางการศึกษา
ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ของนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอ โดยไม่ให้คิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับล่าช้าเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ด้วยคะแนน 218 ซึ่งก่อนหน้านั้นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากที่กรรมาธิการให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นร้อยละ 0.25 และในขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้รับการพิจารณาของวุฒิสภาพร้อมทั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภาได้พิจารณาและได้จัดทำรายงานเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งวุฒิสภามีข้อเสนอต่อร่าง พ.ร.บ. คือ ให้มีการเก็บดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ และในการลงมติเมื่อในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 สมาชิกวุฒิสภาได้พิจารณาเห็นชอบในคณะกรรมาธิการ ที่แก้ให้คงไว้ซึ่งดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ซึ่งแย้งกับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นด้วยกับการไม่เก็บดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ จึงขอแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยต่อมติและความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องการนำแนวคิดดอกเบี้ยกลับมาอีกครั้ง
นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯจะดำเนินการไม่ให้มีเบี้ยปรับ ไม่มีคนค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อนิสิต นักศึกษา ต่อไป และในขั้นต่อไป เมื่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นเรื่องดังกล่าวมาสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยืนยันตามมติเดิมที่ ส.ส.มีมติผ่านร่างดังกล่าวไปแล้วนั้น และจะผลักดันให้มีการเรียนฟรี เพื่ออนาคตของประเทศต่อไป
ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า คณะ กมธ. ได้มีการพิจารณาจำนวน 23 ครั้ง โดยจะมีการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และได้ข้อสรุปว่า ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ รวมทั้งไม่มีผู้ค้ำประกัน เพื่อเป็นการส่งเสริม การศึกษาของเด็กไทยให้มีความความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศต่อไป
ด้านนายมานพ คีรีภูวดล กล่าวว่า ตนในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการขอให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พิจารณาว่า ทำหน้าที่อะไร เพราะไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ จึงขอยืนยันว่าให้ กองทุน กยศ. ทำตามเจตนารมณ์ในการก่อตั้งกองทุน
ด้านนายวิรัตน์ วรศสิริน กล่าวว่า ขอให้เปลี่ยนชื่อ กองทุนกู้ยืม เป็นกองทุนให้ยืม เพื่อสนับสนุนการศึกษาของประชาชนไทย รัฐบาลควรยกระดับการศึกษาของประชาชน และเห็นควรให้ยกเลิกหนี้ กยศ. เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนต่อไป
ด้านนายนิคม บุญวิเศษ กล่าวว่า หนี้ กยศ. มีดอกเบี้ยที่สูงมากในการเรียกเก็บจากผู้กู้ พร้อมทั้งถูกดำเนินคดี ทำให้หมดอนาคตในการทำงานไป |