นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายจารุพล เรืองเกตุ ประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และคณะ เรื่อง ขอเสนอร่างพระราชบัญญัติมัคคุเทศก์

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลา 13.50 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1(โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายจารุพล เรืองเกตุ ประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และคณะ เรื่อง ขอเสนอร่างพระราชบัญญัติมัคคุเทศก์ สืบเนื่องจาก อาชีพมัคคุเทศก์ หรือไกด์ เป็นมากกว่าแค่ผู้นำทาง แต่ยังเป็นทูตวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราว แนะนำ บอกเล่า นำพานักท่องเที่ยวให้คล้อยตามไปกับชีวิตและจิตวิญญาณแห่งสถานที่นั้น ๆ และช่วยดูแลองค์ประกอบทุกอย่างให้การเดินทางทุกครั้งราบรื่นเป็นอาชีพอิสระที่ไม่ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ ไม่มีความมั่นคงในชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา มีสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อาชีพมัคคุเทศก์ ตกงาน โดยไม่ได้รับการเยียวยาเหมือนกับอาชีพอื่นๆ แต่ มัคคุเทศก์ต้องต่อใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ที่ต้องไปสมัครเข้าอบรมเอง โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด จึงต้องมีการเสนอร่าง พ.ร.บ. มัคคุเทศก์โดยมีหลักการและเหตุผลดังนี้ หลักการ ให้มีกฎหมายว่าด้วยมัดอุเทศท์ เหตุผล โดยที่การประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์อยู่ในความควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัดคุเทศก์ ซึ่งมีคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก็ ทำหน้าที่ควบคุมการประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์ รวมทั้งการกำหนดระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ในการประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก็จำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีบุคลากรที่มีคุณสมบัติ วัยวุฒิ ความรู้ความชำนาญด้านวิชาชีพมัคคุเทศก็ อีกทั้งปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทย และมีศักยภาพเพียงพอที่จะปกครองตนเองได้ไนวงการมัคคุเทศก์ด้วยกันได้ อีกทั้งเพื่อเป็นการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ให้บุคคลมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรืออาชีพและการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรม ตลอดจนให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง จึงเห็นสมควรแยกการกำกับดูแลและควบคุมการประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์ออกจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก็ โดยจัดตั้ง "สภามัคคุเทศก็" ขึ้น เพื่อส่งเสริมการประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์กำหนดและควบคุมมาตรฐานและจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก็ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาซีพมัคคุเทศก์และควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลที่ไม่มีความรู้ อันจะก่อให้เกิดภัยและความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมกับเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาให้วิชาชีพมัคคุเทศก็มีความเจริญก้าวหน้าในภายภาคหน้าต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้