วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก ผู้แทนเครือข่ายภาคประชาชน นำโดยนายบัญญัติ เจตนจันทร์  ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์และนายดิเรก จอมทอง  ประธานเครือข่ายผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน เรื่อง ขอให้รัฐบาลผลักดัน การบังคับใช้มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ที่บัญญัติให้รัฐจัดการกับสัตว์ป่าที่อยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ก่อให้เกิดผลกระทบหรือสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน ให้อธิบดีมีอำนาจกำหนดให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่าชนิดหรือประเภทนั้นได้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีแผนที่แสดงแนวเขตแนบท้ายประกาศด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปดูแลรักษาพื้นที่ และกำหนดมาตรการควบคุมหรือออกคำสั่งห้ามกระทำกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่านั้นได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม และหากพื้นที่ดังกล่าวมีผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองอยู่โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดีดำเนินการให้มีการจ่ายค่าเสียหายหรือค่าชดเชยแก่ผู้นั้นด้วย สืบเนื่องจาก มีประชาชนในหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่าจำนวนมากที่ออกจากป่า หากินรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน สร้างความเสียหายรุนแรงต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งสร้างความหวาดกลัวเดือดร้อนแสนสาหัสอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน  เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน 17 จังหวัด ซึ่งเรียกร้องและติดตามการแก้ปัญหาช้างป่าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พบว่าปัจจุบันยังไม่มีการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อให้คนอยู่กับช้างป่าได้อย่างมีความสุขและหลีกเลี่ยงความสูญเสียต่อคนและช้างป่า ซึ่งมีความสอดคล้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้จัดการกับสัตว์ป่า(ช้างป่า) ที่อยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ด้าน น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กล่าวภายหลังการรับยื่นหนังสือว่าจะนำเรื่องดังกล่าว กราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในฐานะของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่  โดยจะเร่งดำเนินการนำส่งเรื่องดังกล่าวไปยังฝ่ายบริหารโดยเร็ว เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป  และขอให้กำลังใจกับเครือข่ายทุกคน พร้อมทั้งขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ