 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 19 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 เวลา 13.40 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ซึ่งทางคณะ กมธ. ได้มีการสอบข้อเท็จจริงมาระยะหนึ่งแล้ว และเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล มาให้ข้อเท็จจริง จำนวน 2 ครั้ง ทั้งในฐานะที่เป็นเจ้าของคดีและในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงค่อนข้างชัดเจนในทุกประเด็น ตั้งแต่การเข้ารับราชการ การย้ายไปสันติบาล และไปช่วยราชการที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 (ส่วนหน้า) แต่ในส่วนของเอกสารประกอบการพิจารณานั้นยังไม่ได้ส่งมาเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ คณะ กมธ.ได้สอบข้อเท็จจริง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเรือนจำจังหวัดราชบุรี และมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนพอที่จะเปิดเผยได้ในบางกรณีเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ได้ยอมรับถึงความสัมพันธ์กับสมาชิกรัฐสภาท่านหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2555 - 2562 และยังคงมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนกระบวนการการเข้ารับราชการได้อย่างไรนั้น พบว่ามีการเข้ารับสมัครโดยบังเอิญแบบยกเว้นอายุจำนวน 2 ตำแหน่ง นอกจากนี้ การที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ตำแหน่งต่าง ๆ ในคณะ กมธ. จำนวน 4 คณะ แต่ตนไม่ทราบถึงที่มาของการแต่งตั้ง ประเด็นต่อมาการขอตัวไปช่วยราชการที่ กอ.รมน. ภาค4 (ส่วนหน้า) ยอมรับว่าตนไม่ได้ไปอยู่ที่นั่นจริงแต่อยู่ที่กรุงเทพมหานครและราชบุรี ส่วนการศึกษาดูงานต่างประเทศนั้น ยอมรับว่าเดินทางไปจริง โดยได้จ่ายเงินค่าใช้จ่ายเองและมีผู้จ่ายให้ในบางส่วน อย่างไรก็ตาม ประเด็นต่าง ๆ ที่ได้สอบถามและได้รับข้อมูลในวันนี้ทำให้เห็นภาพของระบบอุปถัมภ์ในประเทศ ชัดเจนมากขึ้น จึงต้องมีการสอบถามในรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อหาข้อเท็จจริงและข้อสรุปต่อไป ประเด็นต่อมา คณะ กมธ.ได้เชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ มาให้ข้อมูลต่อคณะ กมธ. เพื่อประกอบการพิจารณากรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทราบความคืบหน้าว่า ในบัญชีทรัพย์มรดกของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ไม่ปรากฏพบว่ามีนาฬิกาหรูดังกล่าว ตามที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวอ้าง จึงเป็นเหตุให้ตั้งขอสงสัยว่านาฬิกาหรูนั้นใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง พร้อมกันนี้ ขอถามไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า จะรื้อคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหรือไม่ เพื่อคลายความสงสัยและไขข้อข้องใจของประชาชน มิให้เกิดการตั้งคำถามต่อองค์กรหลักที่มีหน้าที่ตรวจสอบความไม่โปร่งใสของประเทศ |
 |
 |
 |
 |
|