 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้การรับรอง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย และคณะ ณ บ้านพักรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง จ.นนทบุรี ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 7 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| เมื่อวันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 นาฬิกา ณ บ้านพักรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง จ.นนทบุรี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้การรับรองนายอูชิ ซเว (H.E. Mr. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย โดยมี นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเศรษฐกิจใหม่ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมพลังประชาชาติไทยและกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เมียนมา นายไพศาล พืชมงคล และพล.อ.สืบสันต์ ทรรทรานนท์ ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ร่วมให้การรับรอง รองประธานสภาฯ กล่าวชื่นชมเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเมียนมาประจำประเทศไทยว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เพราะเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในสหรัฐอเมริกาและไทย พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยเป็นครั้งแรก ไทยกับเมียนมามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในส่วนของรัฐบาลและประชาชน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีพรมแดนร่วมกันระยะทางยาวถึง 2,400 กิโลเมตร อีกทั้งมีกลไกความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันเพื่อรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนร่วมกัน ในด้านการลงทุนตนได้สนับสนุนให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในเมียนมามากขึ้น สำหรับไทยนั้นแรงงานเมียนมาถือเป็นแรงงานหลักที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และไทยเองก็พร้อมให้ความคุ้มครองและดูแลแรงงานเมียนมาให้ได้รับสิทธิทุกอย่างตามกฎหมายแรงงาน ด้านการค้าขายระหว่างกันนั้น หากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย จะทำให้การค้าตามแนวชายแดนกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติ อีกครั้ง อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศต่อไป ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง สำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมทั้งกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เมียนมาว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน สำหรับสถานการณ์ในเมียนมาขณะนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยจะมีการเลือกตั้งในปี 2566 ทั้งนี้ ในด้านการลงทุนตนมีความยินดีที่ไทยส่งเสริมให้มีการลงทุนในเมียนมามากขึ้น ส่วนสถานการณ์ COVID-19 ในเมียนมาโดยรวมแล้วถือว่าดีขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการค้าขายระหว่างกันกลับมาอยู่ในระดับปกติในเร็ววัน อันจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนตามแนวชายแดน เครดิต : ข่าวโดยสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |
 |
 |
 |
 |
|