 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และคณะ แถลงข่าว เกี่ยวกับผลการพิจารณากรณีการทุจริตเงินจำนวนกว่า 400 ล้านบาท ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 2 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และคณะ แถลงข่าว เกี่ยวกับผลการพิจารณากรณีการทุจริตเงินจำนวนกว่า 400 ล้านบาท ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ที่มีการมาร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการนั้น จากการสอบหาข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้นตรงไปตรงมา ได้ความว่า เงินได้มีการสูญหายไปจากบัญชีเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวนกว่า 400 ล้านบาทจริง และข้อเท็จจริงยังปรากฎด้วยว่าการทุจริตเงินกว่า 400 ล้านบาทนั้น นายเอกราช ช่างเหลา กับพวก มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้มีการดำเนินคดีนายเอกราช ช่างเหลา กับพวก แล้วดังนี้ กรณีการกระทำความผิดอาญา พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้สรุปสำนวนและมีความเห็นสั่งฟ้องนายเอกราช ช่างเหลา กับพวกรวม 5 คน ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันยักยอกไปยังพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.63 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นได้พิจารณาสำนวนแล้ว มีคำสั่งฟ้องคดีอาญาผู้ต้องหาทั้งหมดต่อศาลจังหวัดขอนแก่น โดยแยกเป็น 2 คดี คือ คดีแรก ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น วันที่ 4 ก.พ. 64 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ กับจำเลยรวม 4 คน ความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม และขอให้จำเลยใช้เงิน จำนวน 405 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายด้วย คดีที่สอง ฟ้องศาลขอนแก่นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 64 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทก์ กับนายเอกราช ช่างเหลา จำเลย ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ร่วมกัน โดยที่จำเลยตกลงว่าจะคืนเงินให้ครบจำนวนทั้งหมด 430 ล้านบาท ภายในวันที่ 27 ธ.ค. 63 แต่ก็มิได้ชำระเงินตามที่แจ้งไว้ แม้ปรากฏข้อจริงว่านายเอกราช ช่างเหลา ได้ทำผิดไว้ในช่วงปี 2554 ต่อเนื่องหลายปี ดังนั้น คณะกรรมาธิการจะทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งเรื่องดังกล่าวไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|