วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 14.40 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินงานของคณะ กมธ. ว่า ในวันนี้ คณะ กมธ. ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป
ทั้งนี้ร่างที่เสนอเข้ามามีทั้งหมด 45 มาตรา แต่หลังจากที่พิจารณากันรวมทั้งสิ้น 18 ครั้ง มีการเพิ่มเติม โดยผ่านการพิจารณาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์จนที่สุดแล้วร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีเพิ่มขึ้นมารวมทั้งสิ้น 95 มาตรา และได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้เสนอความเห็นเข้ามาอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งมีการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ด้วยเหตุผลที่ว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศในแถบเอเชียที่มีกฎหมายลักษณะนี้เกิดขึ้น กฎหมายฉบับนี้ได้พิจารณาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าเป็นประโยชน์ในทุกมิติ
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวถึงรายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติว่า หลักการสำคัญประการที่หนึ่งคือ แยกกิจกรรมที่เป็นยาเสพติดและไม่เป็นยาเสพติดออกจากกัน โดยสารที่มีความสำคัญคือสาร THC ที่เป็นสารสกัดซึ่งเป็นสารที่ทำให้มึนเมาถ้าเกินกว่าปริมาณที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดได้กำหนดเอาไว้จะต้องปฏิบัติตามในฐานะเป็นยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ถ้า THC ที่เป็นสารสกัดถ้าต่ำกว่าปริมาณที่กำหนดไม่ถือเป็นยาเสพติด ส่วนตัวพืชกัญชา กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติด
คณะ กมธ. ได้ยึดหลักการสำคัญในการแยกแยะระหว่างกัญชา กัญชง โดยสารที่มีความสำคัญในการตรวจวัดว่าเป็นกัญชาหรือกัญชง จะใช้สาร THC ในปริมาณที่มีการประกาศกำหนดว่าถ้าเกินกว่าที่ประกาศกำหนดให้เป็นกัญชา ถ้าน้อยกว่ากำหนดให้เรียกว่ากัญชง ซึ่งจะมีวิธีการควบคุมกัญชาเข้มข้นกว่ากัญชง และจะมีการควบคุมโดยเฉพาะกัญชาจากช่อดอกเป็นกรณีพิเศษ โดยจะมีการคลายมาตรการในการควบคุมในส่วนที่เกี่ยวข้องในส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ช่อดอก เช่น รากลำต้น ใบเมล็ด เป็นต้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ สุขภาพ และทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น และแยกกิจกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรออกจากในกระบวนการของการพิจารณากัญชงและกัญชา ผลิตภัณฑ์ใดที่เป็นสมุนไพรในฐานะสมุนไพรให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสมุนไพรผลิตภัณฑ์ใดเกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้มีมาตรฐานในการควบคุมสารมึนเมาสูงมาก จึงเชื่อมั่นได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน และยังไม่นับประกาศอื่น ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข และกรมอนามัย ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ยังคงมีผลปฏิบัติอยู่ ดังนั้นในส่วนของพ.ร.บ. กัญชา กัญชงฯ ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนที่มีกฎหมายอยู่แล้ว
สำหรับประเด็นเรื่องการจดแจ้งและการขออนุญาตนั้น มีการแยกออกจากกัน การจดแจ้งภายในครัวเรือนนั้นให้ประชาชนมีสิทธิ์ปลูกได้ 15 ต้น สำหรับทุกคนครัวเรือนโดยการจดจดแจ้งเท่านั้นไม่มีค่าธรรมเนียม และการจดแจ้งต้องแล้วเสร็จภายใน 1 วัน ส่วนปลูกขนาดใหญ่ การจดแจ้ง ราก ลำต้น ส่วนของกัญชงสามารถปลูกได้ถึง 5 ไร่ โดยการจดแจ้งไม่ต้องขออนุญาต แต่ห้ามขายสำหรับความก้าวหน้าของกฎหมายนี้ คือ สถานพยาบาลทั้งหมดสามารถปลูกกัญชาเพื่อผลิตยาเฉพาะรายให้กับคนไข้ของตนเอง และขอจดแจ้งได้ ดังนั้นจะเป็นการเปิดเสรีทางการแพทย์อย่างแท้จริง สำหรับการผลิตเพื่อนำเข้าส่งออกหรือขายจะต้องมีใบอนุญาตทั้งสิ้น การขออนุญาต กมธ. พิจารณาให้เป็นบุคคลไทยหรือถ้าเป็นนิติบุคคลต้องเป็นนิติบุคคลไทยไม่เปิดช่องให้กับนิติบุคคลต่างชาติ ทั้งนี้ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกัญชากัญชงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนไทยทุกคน พื้นที่ใดก็ตามที่ปลูกกัญชาในทางพาณิชย์ที่ไม่เกิน 5 ไร่จะไม่ให้มีการเก็บค่าธรรมเนียม แต่ถ้าสูงกว่านั้นจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมตามขนาดพื้นที่ กฎหมายฉบับนี้จะทำให้การทำธุรกิจกัญชากัญชงเป็นไปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศ และเป็นไปเพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดของกลุ่มทุนทางการแพทย์และบริษัทยาข้ามชาติ กฎหมายฉบับนี้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนที่กังวลในเรื่องของไม่ปลอดภัยในการใช้กัญชากัญชงในทางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการนำพระราชบัญญัติควบคุมสุรา พระราชบัญญัติควบคุมยาสูบและพืชกระท่อม มาบูรณาการประยุกต์ใช้ในการควบคุมการกัญชาในกลุ่มเปราะบาง เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร หากมีการขายให้กับเด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท และถ้าทำความผิดมาตราอื่น ๆ แล้วพ่วงกับการกระทำผิดเด็กและเยาวชนโทษจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โทษสูงสุดในกฎหมายฉบับนี้ คือ โทษสูงสุดของการนำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 500,000 บาท หากนำเข้าแล้วนำมาขายให้กับเด็กสตรีโทษสูงขึ้นเป็นสองเท่า รวมทั้งมีการกำหนดวิธีการขาย สถานที่จำหน่าย สถานที่สูบ โดยประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในหลายกรณี เช่นไม่ให้ขายช่อดอกกัญชากัญชงในเครื่องขายที่มีการหยอดเหรียญและผลิตภัณฑ์ที่เป็นช่อดอกกัญชาขายไม่ให้ขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาด้วยความหลากหลายของ กมธ. และที่ปรึกษา กมธ. ทั้งที่เห็นพ้องต้องกันหรือเห็นแตกต่างกันได้ถกเถียงกันอย่างรอบคอบรัดกุมแล้วและคาดหวังว่าในชั้น กมธ. ที่ได้จบสิ้นแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับสมาชิกวุฒิสภาจะได้กรุณาพิจารณากฎหมายฉบับนี้เพื่อให้ผ่านความเห็นชอบให้เร็วที่สุด เพราะจะยุติสุญญากาศในสังคมได้ และ กมธ. มั่นใจว่ากฎหมายฉบับนี้หากประกาศใช้ได้เร็วที่สุด จะเป็นผลดีต่อสังคม
โดย สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ในวันที่ 14 ก.ย. นี้ ขอให้ทุกคนติดตามการพิจารณาและ กมธ. หวังว่าจะมีการพิจารณาแล้วเสร็จในวันนั้น พร้อมกัน กมธ. คาดหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะให้การสนับสนุนร่างพระราชบัญญัตินี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์กับเรื่องของกัญชากัญชงอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้บรรยากาศที่อ้างกันว่าเป็นสูญญากาศในวันนี้จบสิ้นไปโดยเร็ว
|