วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ โฆษกคณะ กมธ. การคมนาคม แถลงข่าวผลการประชุมคณะกมธ. ซึ่งได้มีการพิจารณา เรื่อง "การเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างจากกรณีอุบัติเหตุคานสะพานลอยกลับรถ กม. 34 หล่นทับรถยนต์ บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร" โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญอธิบดีกรมทางหลวง มาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม
สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 เกิดเหตุคานสะพานกลับรถ หล่นทับรถของประชาชนในระหว่างซ่อมบำรุง จนมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บหลายราย คณะกมธ.เห็นว่า เหตุการณ์นี้กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการใช้ถนนของประชาชน จำเป็นต้องศึกษากรณีดังกล่าวเพื่อทราบข้อเท็จจริง และหาแนวทางการป้องกันและแก้ไข ตลอดจนมาตรการเยียวยาผู้เสียหาย รวมทั้งทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยในการดำเนินงานโครงการก่อสร้างหรือซ่อมบำรุงของหน่วยงานภาครัฐ จึงได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จากการประชุม คณะ กมธ.มีประเด็นการพิจารณาและรับทราบข้อมูล ดังนี้ 1. รับทราบข้อเท็จจริงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 กรณีคานสะพานลอยกลับรถที่อยู่ระหว่างซ่อมแซมโครงสร้างหล่นทับรถที่วิ่งผ่าน ได้แก่ รถกระบะ รถยนต์ รถบรรทุกวัตถุไวไฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้รื้อย้ายคานสะพานเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ปัจจุบันประชาชนสามารถเดินทางสัญจรบนทางหลวง ดังกล่าวได้แล้ว2.รับทราบการดำเนินการของกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาวิศวกร เข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อตรวจสอบมาตรฐาน การก่อสร้าง วิเคราะห์ ข้อเท็จจริงและสาเหตุของกรณีดังกล่าว รวมทั้ง ประเมินความเสียหาย กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา และแนวทาง การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เมื่อคณะกมธ.ได้รับทราบข้อมูลแล้ว ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้1.การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาสาเหตุของการเกิดเหตุและชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ รวมทั้งกำหนดแนวทางการแก้ไข ตามหลักวิชาการที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่น จากประชาชนในการเดินทางสัญจรบนถนนหลวง และสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือให้แก่หน่วยงานของรัฐ2.การเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ด้านมนุษยธรรม จากข้อเท็จจริง กรมทางหลวงได้เยียวยาจนเป็นที่พอใจของญาติผู้เสียหายแล้ว ส่วนด้านกฎหมาย การชดใช้ ค่าสินไหมทดแทน ให้เป็นดำเนินการ ไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร