วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565  เวลา 13.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์  รับยื่นหนังสือจาก นางเพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง  สมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประเทศไทย (สสทท.) และคณะ เรื่อง  ขอยกเลิกพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541  สมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประเทศไทย (สสทท.) ขอยกเลิกพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 โดยมีข้อสังเขป ดังนี้ 1. พระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 กำหนดให้ธนาคารสามารถขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้ โดยบริษัทบริหารสินทรัพย์จะรับซื้อสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพจากธนาคารในราคาที่ต่ำมาก คือ ร้อยละ 35 ของมูลหนี้ แล้วเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้เต็มจำนวน เมื่อลูกหนี้ไม่มีเงินส่งผลให้ทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ธนาคารยึดไว้ในชั้นบังคับคดี เช่น บ้าน ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ และเมื่อมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวลูกหนี้ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะไถ่ถอนคืนได้สูญเสียบ้านของตนเองไป เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
2. ผู้ร้องเห็นว่า ในทางบัญชีธนาคารสามารถตั้งเป็นรายการหนี้สูญ หรือหนี้สงสัยจะสูญโดยกำหนดให้เป็นค่าใช้จ่ายที่แสดงอยู่ในงบกำไรขาดทุน เพื่อประโยชน์ในการคำนวณภาษีเงินได้อยู่แล้ว ดังนั้น จึงขอให้พิจารณายกเลิกพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541
3. ผู้ร้องเสนอให้ตรากฎหมายฉบับใหม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองบ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาทและเป็นบ้านหลังเดี่ยว ไม่ให้ถูกยึด ในกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้สินที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้
4. ผู้ร้องขอเสนอกฎหมายการบริหารหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วโดยความไม่รู้ โดยให้บริษัทที่เป็นเจ้าหนี้สามารถนำยอดหนี้มากำหนดเป็นรายการค่าใช้จ่ายในทางบัญชีได้เต็มจำนวน เพื่อชำระภาษีน้อยลงและในส่วนลูกหนี้กำหนดให้เป็นเงินได้พึงประเมินที่จะต้องนำมาชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กฎหมายกำหนด
5. ผู้ร้องได้มีหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังประธานรัฐสภา และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยแล้ว ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาและมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ให้ยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เนื่องจากไม่อาจรับฟังได้ว่าพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน หรือเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนโดยไม่จำเป็นหรือไม่สมควรแก่เหตุ จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะดำเนินการตามที่ผู้ร้องเรียนเสนอให้ยกเลิกพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541
ดังนั้น สสทท. จึงขอเรียกร้องในประเด็น ดังนี้
1. ขอให้ยกเลิกพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541
2. ขอเสนอให้ตรากฎหมายฉบับใหม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองบ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท และเป็นบ้านหลังเดี่ยว ไม่ให้ถูกยึด ในกรณีที่มีหนี้สินที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า พรรคไทยศรีวิไลย์จะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคนำไปพิจารณาศึกษาว่า พระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 บกพร่องอย่างไรบ้าง  สามารถดำเนินการได้อย่างไร และระหว่างที่เสนอแก้ไขพระราชกำหนดทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างบังคับคดีจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง