วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะ กมธ.การแรงงาน พร้อมด้วย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ เลขานุการคณะ กมธ. นายทวีศักดิ์ ทักษิณ โฆษกคณะ กมธ. และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจากผู้ร้องเรียน 3 คณะ ดังนี้
1. นางสมใจ ศรีทับทิม และคณะ เรื่อง ลูกจ้างของ บริษัท เจนนิวส์ โปรดักท์ จำกัด ถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า สืบเนื่องจาก บริษัท เจนนิวท์ โปรดักท์ จำกัด ได้บอกเลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 48 คน โดยได้เจรจาตกลงร่วมกันว่า นายจ้างยินดีจ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามสิทธิของกฎหมาย โดยแบ่งเป็น 3 งวด อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 63 ครบกำหนดจ่ายเงิน ตามข้อตกลงงวดที่ 2 แต่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง จึงถือว่าข้อตกลงเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 63 เป็นโมฆะ จึงได้ยื่นคำร้องพนักงานตรวจแรงงานอีกครั้ง เพื่อให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชย และค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเต็มจำนวน
2. นายบุญสม ทาวิจิตร ประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรีและใกล้เคียง และคณะ เรื่อง ขอให้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม เพื่อให้เกิดการยกเลิกประกาศกระทรวงแรงงานฉบับ วันที่ 8 และ 22 มิ.ย. 65 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 63 ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องให้ข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้เข้าสู่การชี้ขาดของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ และห้ามนายจ้างปิดงานหรือลูกจ้างนัดหยุดงานในระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกำหนดให้นายจ้างบลูกจ้างต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการปิดงานหรือนัดหยุดงานให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน และให้ลูกจ้างที่นัดหยุดงานกลับเข้าทำงานตามปกติ กลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรีและใกล้เคียง ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 24 สหภาพแรงงาน มาตั้งแต่ปี 2542 เห็นว่าประกาศฉบับดังกล่าวนี้ ไม่ได้ยึดโยงกับมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) วันที่ 17 มิ.ย. 65 ที่มีมติว่าด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่สามารถจัดการได้และตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สามารถเปิดกิจการและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป ให้มีการปรับพื้นที่เป็นสีเขียว 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ หากประกาศฉบับดังกล่าว ยังคงอยู่ ย่อมจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการรวมตัวและเจรจาต่อรองของสหภาพแรงงานที่ไม่สามารถรวมตัวเพื่อรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ รวมถึงมีอำนาจในการต่อรองกับนายจ้างในประเด็นต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน และแนวทางในอนาคต ทางกลุ่มจึงขอให้คณะ กมธ. การแรงงาน เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถามและชี้แจงในเรื่องดังกล่าวรวมถึงแนวทางต่อการปกป้องคุ้มครองผู้ใช้แรงานให้เข้าถึงความเป็นธรรม และเพื่อให้ยกเลิกประกาศฉบับนี้ ต่อไป
3. นายเสถียร พันพรม ผู้แทนเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (Migrant Working Group : MWG) เรื่องขอให้ตรวจสอบการจ้างงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน ของเจ้าหน้าที่ ใน จ.ระยอง โดยกรณี การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และหักค่าจ้างโดยมิชอบ ในพื้นที่ จ.ระยอง พบว่า 1. การหักค่าใช้จ่ายรายการ "ค่าตำรวจ" ซึ่งเป็นรายการหักที่กฎหมายไม่อนุญาตให้หักได้ และการหักเงินในรายการนี้อาจเป็นไปได้ว่ามีเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่ 2. มีการจ้างแรงงานในลักษณะรับเหมาค่าแรงที่อาจจะขัดต่อพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวมาตรา 146 และประกาศกระทรวงแรงงาน และกรมการจัดหางานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เครือข่ายมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายซึ่งกระทบต่อสิทธิของแรงงานข้ามชาติและภาพลักษณ์
ด้าน นายสุเทพ อู่อ้น กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอขอบคุณผู้ร้องเรียนทุกท่านที่มายื่นเรื่องต่อคณะ กมธ. ซึ่งคณะ กมธ. จะรีบบรรจุเรื่องร้องเรียนทั้ง 3 เรื่อง เข้าสู่วาระการประชุม พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการตรวจสอบและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในประเด็นต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
|