 |
|
|
 |
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล กับคณะ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
| วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 เวลา 17.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งวันนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลในการควบคุมองค์ประชุมในสภาผู้แทนราษฎร และแสดงให้เห็นกระบวนการในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้าว่ามีการใช้กลวิธีที่ไม่ชอบธรรม อาทิ การให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา 90 วัน และนำร่าง พ.ร.บ. ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องเข้ามาประกบและใช้เสียงข้างมากในการรวมการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกฯ ผู้ยื่นร่าง พ.ร.บ. และสมาชิกฯ เสียงส่วนใหญ่ที่รวมพลังและแสดงจุดยืนของสภาผู้แทนราษฎรโดยการให้ ร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 4 ฉบับที่เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ผ่านการพิจารณา ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้มีมติมานานแล้วในการให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมของนายธัญวัจน์ ในส่วนร่างของคณะรัฐมนตรีทั้งสองฉบับนั้น มติของพรรคเพื่อไทยไม่เห็นชอบ เนื่องจากเห็นว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต ไม่สามารถทดแทนสิ่งซึ่งพี่น้องประชาชนกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีความต้องการสมรสเท่าเทียมได้ โดยเป็นเพียงหนทางของรัฐบาลที่ไม่ต้องการให้กฎหมายของสมาชิกฯ โดยเฉพาะฝ่ายค้าน ผ่านการพิจารณาของสภาจึงนำ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมมาประกบ เพื่อหวังให้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ดำเนินการ แต่สุดท้ายเราก็ได้ฟันฝ่าผ่านการพิจารณามาได้ นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการประชุมได้มีการถกเถียงกันว่า ขั้นตอนในการพิจารณากฎหมายนั้นจะแยกเป็น 2 ฉบับ หรือ 1 ฉบับ ซึ่งสุดท้ายทางสภาได้ดำเนินการตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอคือเมื่อเสนอเข้าไป 2 ฉบับ ก็มีกฎหมายส่งกลับมา 2 ฉบับ และแม้ว่าการลงมติเลือกฉบับที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาจะไม่ใช่ฉบับที่พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม โดยหลักการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายซึ่งได้รับความเห็นชอบในหลักการในวาระ 1 เมื่อเข้าไปในชั้นของ กมธ. ก็มีความจำเป็นที่จะต้องนำหลักการในร่างของนายธัญวัจน์ เข้าไปประกบ ดังนั้น ทางฝ่ายค้านจะติดตามการพิจารณาในชั้นของ กมธ. ว่าสิ่งซึ่งสภาได้ให้ความเห็นชอบในหลักการในวาระ 1 จะกลับมาอยู่ในร่างที่มีคณะรัฐมนตรีเป็นร่างหลักหรือไม่ ทั้งนี้ จะต้องติดตามให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริง เพื่อให้กลุ่ม LGBTQ+ ได้สิทธิในการมีชีวิตอย่างเท่าเทียมกับพี่น้องประชาชนทุกค |
 |
 |
 |
 |
|