วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 เวลา 15.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายทศพร ทองศิริ โฆษกคณะ กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมของคณะ กมธ. เมื่อวันพุธที่ 8 มิ.ย. 65 เพื่อพิจารณาปัญหาสินค้าปุ๋ยมีราคาสูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรภายในประเทศ โดยได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าภายใน สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย เข้าร่วมประชุม ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการระยะสั้น ปี 2565 ในการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาสูง ดังนี้ 1. โครงการบริหารจัดการปุ๋ยเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร 2. โครงการส่งเสริมการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์เพื่อการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพงปริมาณ 5.4 ล้านตัน ประกอบด้วย 4 โครงการย่อย ได้แก่ 1) โครงการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง 2) โครงการส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ย 3) โครงการรณรงค์การผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ 4) โครงการผลิตปุ๋ยหมักเติมอากาศเพื่อการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง 3. โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุยเพื่อชุมชนเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี ประกอบด้วย 2 โครงการย่อย ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน 2) โครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน
สำหรับมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ คือ โครงการลดราคาปุ๋ยเคมีและหาตลาดเพื่อการส่งออก ผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประเทศรัสเซียไม่ได้มีข้อขัดข้องในการส่งออกปุ๋ยเคมีมาจำหน่ายให้กับประเทศไทย แต่เนื่องจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้มีปัญหาเรื่องการขนส่ง ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยเคมี กระทรวงพาณิชย์จึงได้มีแนวทางในการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะดำเนินการเจรจาซื้อขายกันประมาณกลางเดือน มิ.ย. นี้ ส่วนสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ได้ให้ข้อมูลว่า ภาคเอกชนไม่ได้มีปัญหาเรื่องการนำเข้าปุ๋ยเคมี แต่ติดปัญหาเรื่อง Ceiling Price หรือการกำหนดราคาขั้นสูง จึงขอให้ภาครัฐมีนโยบายเพื่อช่วยดูแลในเรื่องนี้และควบคุมราคาปุ๋ยเคมีที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะหากราคาสูงเกินไปเกษตรกรก็จะไม่มีกำลังซื้อ
ทั้งนี้ คณะ กมธ. ได้มีข้อเสนอแนะว่า สถานการณ์สินค้าปุ๋ยมีราคาสูงขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น นอกจากการที่ภาครัฐจะควบคุมราคาแล้ว ควรกำหนดเป้าหมายที่สำคัญในการหาแนวทางที่จะสามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้ได้ราคาสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นด้านการวิจัยและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ข้าว ให้สามารถปลูกได้โดยไม่ใช้ปุ๋ยและน้ำมากและยังสามารถออกผลผลิตได้เร็ว เพื่อให้ส่งออกไปจำหน่ายแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มมากขึ้น
|