วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา นายบัญญัติ เจตนจันทร์ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช โฆษกคณะ กมธ. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ. ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันอังคารที่ 7 มิ.ย. 65 ซึ่งได้เริ่มประชุมเวลา 14.00 น. เลิกประชุมเวลา 20.15 น. ทั้งนี้ ในการพิจารณาเมื่อวานนี้ เป็นการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ งบประมาณรายจ่าย และการตรวจสอบงบการเงินของหน่วยรับงบประมาณในภาพรวม โดยมี 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1. กระทรวงการคลัง 2. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 3. ธนาคารแห่งประเทศไทย 4. สำนักงบประมาณ 5. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยในการพิจารณาเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย
ในภาพรวมนั้น ผู้แทนของธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า เศรษฐกิจของประเทศไทย กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 และ ปี 2566 โดยปัจจัยฟื้นตัวนั้น เกิดจากอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยวส่วนในเรื่องของการลงทุน การส่งออก หรือการบริโภค ภาพรวมยังคงดีอยู่หรือดีกว่าคาดการณ์ในบางมิติด้วย ส่วนจำนวนผู้ว่างงานยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยว ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเกินกว่า 1 ล้านคนแล้วและคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 5.6 ล้านคน ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 19 ล้านคน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้นอกจากนี้ ยังหารือกันเกี่ยวกับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ตอบโจทก์ของประเทศและประชาชน
ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติการหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 รวมทั้งยังหารือเรื่องความเป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณ และมาตรการต่าง ๆ อาทิ มาตรการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ที่ประสบปัญหาอย่างมาก จนต้องยุติกิจการจำนวนมาก ส่วนในวันนี้จะเป็นการประชุมครั้งที่ 3/2565 วันพุธที่ 8 มิ.ย. 65 ซึ่งคณะ กมธ. จะมีการพิจารณางบประมาณในภาพรวมของกระทรวงการคลังงบประมาณทั้งสิ้น 285,230,406,000 บาท และจะพิจารณางบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ดังนี้ 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง 2. สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำหรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม 3. กรมธนารักษ์ 4. กรมบัญชีกลาง 5. กรมศุลกากร 6. กรมสรรพสามิต 7. กรมสรรพากร
ทั้งนี้ คณะ กมธ. มีกำหนดการพิจารณางบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงการคลัง ต่อไปจนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งหากมีความคืบหน้าในการพิจารณางบประมาณเพิ่มเติมจะมารายงานความคืบหน้าต่อไป
|