ทั้งนี้ คณะ กมธ. มีการ ประชุมมาแล้วรวม 5 ครั้ง พิจารณาถึงมาตรา 15 จากจำนวนทั้งสิ้น 45 มาตรา โดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นกฎหมาย
ปฏิรูปสำคัญฉบับหนึ่ง มีเจตนารมณ์ที่ทำให้โทษอาญาที่มีโทษปรับตามกฎหมายต่าง ๆ รวม 212 ฉบับ ซึ่งเป็นความผิดไม่ร้ายแรง เจ้าพนักงานสามารถให้จ่ายค่าปรับทีเรียกว่า "ปรับเป็นพินัย" ได้ โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดอาญา ไม่ต้องถูกบันทึกประวัติอาชญากรรมให้เป็นตราบาปติดตัว
สำหรับคนยากจนที่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ก็ไม่ต้องติดคุกแทนค่าปรับ สามารถงดค่าปรับหรือสั่งให้ทำงานบริการแทนได้เป็นการลดทอนโทษทางอาญาที่มีมากเกินไป ที่เรียกว่าโทษอาญาเฟ้อ จะทำให้อุณหภูมิของสังคมเย็นลง และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ ตัวอย่างโทษอาญาในกฎหมายฉบับนี้ เช่น กฎหมายควบคุมการเรี่ยไร  พ.ศ. 2487 มาตรา 18 ระบุโทษว่าผู้ใดฝ่าฝืนเงื่อนไขควบคุมการเรี่ยไร คือไม่นำใบอนุญาตให้เรี่ยไรติดตัว หรือไม่แสดงใบอนุญาตให้เรี่ยไรติดแสดง ณ สถานที่เรี่ยไร ตามมาตรา 12 ต้องรับโทษปรับไม่เกิน 100 บาท ซึ่งเป็นโทษทางอาญาพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 มาตรา 76 ระบุว่าผู้ใดใช้คำว่าหอพักในสถานที่ของตน โดยไม่ได้รับใบอนุญาตต้องรับโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทและปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ซึ่งโทษปรับที่เป็นโทษทางอาญาเช่นนี้ ต่อไปเมื่อมีพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย เจ้าพนักงานที่เกี่ยวซ้องกับกฎหมายนั้น ๆสามารถพิจารณาให้ผู้กระทำผิดจ่ายเงินค่าปรับเป็นพินัยเข้าหลวงโดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาได้ เป็นต้นซึ่งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คืบหน้าไปด้วยดี กมธ. จากทุกฝ่ายพิจารณาปรับปรุงร่างเป็นอย่างดี คาดว่าจะพิจารณาเสร็จได้ตามเวลาและอีกประมาณ 2 – 3 เดือน น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาทันสมัยประชุมหน้า