 |
|
|
 |
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม พร้อมด้วย น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม โฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
. แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมาธิการในวันนี้ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 17 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม พร้อมด้วย น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม โฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
. แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมาธิการในวันนี้ โดยที่ประชุมได้มีการในพิจารณาประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งกรรมาธิการมีความเห็นร่วมกันว่าการจัดตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่ควรเป็นเรื่องที่ยากเกินไป กฎหมายต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองได้โดยง่าย เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองนั้น กรรมาธิการส่วนหนึ่งเห็นว่าคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองไม่ควรเป็นไปในลักษณะเดียวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมาธิการบริหารพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองควรกำหนดไว้เพียงใดนั้น ต้องพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่กำหนดไว้ในมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญเป็นรายประเด็น
ส่วนประเด็นเรื่องอายุของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองนั้นกรรมาธิการมีความเห็นเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายที่หนึ่ง เห็นว่า ควรกำหนดให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เพราะเป็นเกณฑ์อายุเดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และฝ่ายที่สอง เห็นว่า ควรกำหนดให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เพราะผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองควรเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว เนื่องจากผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองอาจต้องทำนิติกรรมและการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งพรรคการเมือง ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะพิจารณาประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อหาข้อยุติ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการจะเร่งรัดดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในช่วงปิดสมัยการประชุมนี้ เพื่อให้สามารถนำเสนอรายงานเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาได้เมื่อเปิดสมัยการประชุมหน้าในเดือน พ.ค. |
 |
 |
 |
 |
|