FONTSIZE
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร
โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรูกับดีแทคและการค้าปลีก-ค้าส่ง เปิดเผยความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการ
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 10 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.65 ณ อาคารรัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรูกับดีแทคและการค้าปลีก-ค้าส่ง เปิดเผยความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการให้ความสำคัญกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การบริการด้านโทรคมนาคม และการค้าปลีก-ส่งทุกประเภท มีสภาวะการแข่งขันที่เป็นธรรม ผลิตสินค้าและบริการในราคาที่ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน โดยในเบื้องต้นได้สร้างความเข้าใจร่วมกันว่า รัฐต้องมีอำนาจในการกำกับดูแลกระบวนการควบรวมธุรกิจในทุกกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกิจการโทรคมนาคม หรือกิจการค้าปลีกค้าส่ง ทั้งนี้ เพื่อพิทักษ์และปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นแรกเราได้เน้นย้ำว่าหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง 2 หน่วยงานได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ตามกฎหมายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และระมัดระวังอย่าให้เกิดรอยรั่วทางกฎหมายมาเอารัดเอาเปรียบประชาชนเป็นอันขาด โดยในเบื้องต้นขอให้ กขค. และ กสทช. ยืนยันอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการควบรวมธุรกิจในครั้งนี้ และร่วมกันวิเคราะห์ว่ามีช่องว่างทางกฎหมายที่เป็นจุดอ่อนหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยงานสามารถกำกับดูแลการควบรวมธุรกิจได้ในทุกระดับ อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องรับฟังข้อมูลเพื่อศึกษาผลกระทบต่างๆให้รอบด้าน ก่อนที่จะมีความเห็นว่าควรมีการควบรวมธุรกิจในครั้งนี้หรือไม่ โดยต้องรอฟังผลสรุปมาตรการเฉพาะหากเกิดการรวมธุรกิจขึ้นจริง ทั้งมาตรการเชิงโครงสร้างและเชิงพฤติกรรม ณ ปัจจุบัน แม้ทั้ง 2 บริษัทจะยื่นเอกสารกับกสทช.เพื่อดำเนินการรวมธุรกิจแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารให้มีความครบถ้วน หลังจากนั้นจะมีการตั้งที่ปรึกษาอิสระก่อนที่จะเริ่มการพิจารณา โดยทางกสทช. มีเวลา 90 วันหลังตั้งที่ปรึกษาอิสระในส่วนข้อกฎหมาย สำนักงานกสทช. ได้ยอมรับวาาไม่มีอำนาจในการให้อนุญาตควบรวม ตามประกาศ กสทช.เรื่องการรวมธุรกิจฉบับล่าสุด ที่ถูกแก้ไขและคงเหลือไว้เพียงอำนาจในการออกมาตรการเฉพาะเพื่อคงสภาพการแข่งขัน ซึ่งมาตรการเฉพาะดังกล่าว หากผู้ประกอบการเห็นว่าเกินกว่าที่จะปฏิบัติตามได้ ก็อาจนำไปสู่การยุติการรวมธุรกิจ น.ส.ศิริกัญญากล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการ ยังขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ช่วยพิจารณาสั่งการหน่วยงานในกำกับคือ บริษัทโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือ เอ็นที ได้หารือกับ กสทช. เพื่อศึกษาวิธีบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นเสาสัญญาณหรือสายสัญญาณต่างๆ เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริการรายใหม่สามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงการผูกขาด หรือการรวมตัวให้มีอำนาจเหนือตลาด โดยหน่วยงาน กสทช. อาสารับไปดำเนินการสรุปแนวทางและความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ต่อไป ตลอดจนคณะกรรมาธิการยังให้ความสำคัญกับประเด็นการกำหนดมาตรการเชิงรุกเพื่อตอบรับการให้บริการต่างๆที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเราตระหนักถึงมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบกิจการทุกกลุ่ม ทุกรูปแบบ ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาแข่งขันในตลาดให้มากยิ่งขึ้น โดยเราไม่ปรารถนาที่จะขัดขวางการแข่งขันทางการค้า แต่มุ่งเน้นไปที่หลักการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นธรรม โดยคณะกรรมาธิการอยากเห็นประเทศของเรามีนโยบายการแข่งขันทางการค้า เพราะเราเชื่อว่าขนาดของผู้ประกอบการจะใหญ่หรือเล็กไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่อยู่ที่การออกแบบระบบของประเทศที่ต้องเอื้อกับการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีต่างหาก จึงจะทำให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
Download all images
การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แสดงทั้งหมด...
Untitled Document
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร :
0 2244 2500
e-Mail
: webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562
หน้าแรก
สภาผู้แทนราษฎร
วุฒิสภา
สนง. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
สนง.เลขาธิการวุฒิสภา
คณะกรรมาธิการ
ศูนย์ประชาคมอาเซียน
รัฐสภาระหว่างประเทศ Inter Parliament Affairs
สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา
เกี่ยวกับรัฐสภา
โครงสร้าง
อำนาจหน้าที่
สมัครงาน
ติดต่อเรา