โดยในเบื้องต้นขอเรียนว่า เหตุการณ์สภาล่มเกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย และการรักษาองค์ประชุมนั้น ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ดังนั้นเพื่อเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และเคารพต่อประชาชนที่เลือกมา สมาชิกทุกท่านควรมาประชุมและแสดงตนทุกครั้ง

ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้พยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้การประชุมสภาดำเนินไปได้ แม้ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และได้ขอความร่วมมือไปยังทุกฝ่ายให้เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.พ. 65 ได้มีการหารือของ ส.ส. การพิจารณากระทู้ถาม และการพิจารณารับทราบรายงานของหน่วยราชการต่าง ๆ จำนวน 7 เรื่อง ตามที่คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) ได้ตกลงร่วมกัน ทำให้เรื่องรับทราบที่ค้างอยู่ในสภาเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงแค่ 5 เรื่องเท่านั้น ส่วนในวันพุธที่ 2 ก.พ. 65 ซึ่งเกิดเหตุการณ์สภาล่มนั้น สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ที่คณะ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว จำนวน 1 ฉบับ ร่าง พ.ร.บ. ที่เป็นเรื่องด่วน จำนวน 5 ฉบับ ร่าง พ.ร.บ. ที่เป็นเรื่องค้างพิจารณา จำนวน 2 ฉบับ จนถึงร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต เมื่อ ส.ส. อภิปรายครบทุกท่าน และผู้เสนอร่าง พ.ร.บ. ได้สรุปเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะลงมติ ประธานในที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า ไม่ครบองค์ประชุม จึงได้ปิดประชุมเวลา 18.25 น. หลังจากที่ได้ประชุมมาแล้ว 8 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนานพอสมควร และได้รับข้อมูลในภายหลังว่าขาด ส.ส. เพียงแค่ 4 ท่าน ก็จะครบองค์ประชุม