 |
|
|
 |
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
รองประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) แถลงข่าว ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
| วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.15 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) แถลงข่าวในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1. ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือในที่ประชุม ครม. เกี่ยวกับการให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมที่ 5.30 ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คาดว่าจะให้ทันต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยหลักการคือจะขอแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่สามารถช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกล่าว ซึ่งกฎหมายนี้จะทำให้การดำเนินการที่จะเป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่กฎหมายได้ให้พรรคการเมืองสามารถส่งผู้สมัครได้ แต่เมื่อนักการเมืองไม่สามารถหาเสียงได้จึงเป็นเรื่องย้อนแย้งกัน ดังนั้น จึงควรมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ เพื่อช่วยให้การดำเนินการส่งเสริมการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการส่งผู้สมัครและมีส่วนร่วมในการรณรงค์หาเสียงด้วย เพราะหลักปรัชญาทางการเมืองและการปกครองทั่วไปถือว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นเวทีสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน เป็นการสร้างให้องค์กรปกครองท้องถิ่นมีความเข้มแข็งซึ่งจะมีผลต่อการเมืองระดับประเทศให้มีความเข้มแข็ง อันมีผลทำให้ประเทศชาติเจริญ ประชาชนมั่งคั่ง ดังเช่นนานาอารยประเทศ ดังนั้น ตนจึงได้หารือกับประธานวิปรัฐบาลและพรรคการเมืองเกือบทุกพรรค โดยมีความเห็นตรงกันว่าควรมีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งประธานวิปรัฐบาลได้มอบหมายให้ตนเสนอเรื่องนี้เพื่อเลื่อนระเบียบวาระการประชุมในที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ. 65 และให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 9 ก.พ. 65 และคาดว่าเมื่อเลื่อนระเบียบวาระแล้วจะสามารถพิจารณาในคราวต่อไปได้ 2. ตามที่พรรคฝ่ายค้านได้ขอเสนอญัตติเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายค้านได้ขอเวลาทั้งหมด 22 ชั่วโมง โดยฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ซักถามและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีอย่างกว้างขวาง และให้คณะรัฐมนตรีได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ในเวลา 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้สรุปในญัตติว่าการเสนอญัตติครั้งนี้เพื่อซักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาของคณะรัฐมนตรี และร่วมกันหาข้อสรุปเพื่อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ฝ่ายค้านดำเนินการตามญัตตินี้ และพรรคร่วมรัฐบาลจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายค้านเพื่อให้การอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ตามญัตติของฝ่ายค้าน 3. วิปรัฐบาลได้หารือเบื้องต้นและส่งประเด็นสาระสำคัญที่เป็นญัตติของฝ่ายค้านเพื่อให้คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ตอบข้อซักถามโดยตรง ซึ่งในญัตติดังกล่าวมี 5 ประเด็น ได้แก่ ปัญหาด้านเศรษฐกิจตกต่ำทรุดตัวมาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการกระทำที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรีใน 6 เรื่องสำคัญ ได้แก่ เหมืองอัครา วิสัยทัศน์ของผู้นำที่ทำให้สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่สูงขึ้น ปัญหายาเสพติด และการบริหารจัดการต่าง ๆ ของนายกรัฐมนตรีที่ไม่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีความพร้อมในการชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ทั้งนี้ ตนต้องการให้การอภิปรายในวันที่ 17 - 18 ก.พ. 65 เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ในการซักถามปัญหาและเสนอแนะ ซึ่งเป็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลที่จะได้แถลงถึงผลงานต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมาให้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งจะทำให้ความคาดหวังของประชาชนในระบบรัฐสภาเป็นไปในทางที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น |
 |
 |
 |
 |
|