 |
|
|
 |
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน รับยื่นหนังสือจากนายอนันต์ วิลัยฤทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 2 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
|
|
|
|
|
วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน รับยื่นหนังสือจากนายอนันต์ วิลัยฤทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีบริษัทคิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด เตรียมกลับมาเปิดเหมืองแร่ชาตรีอีกครั้ง ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และระบบนิเวศในพื้นที่ ตามความบกพร่องของการประกอบกิจการเหมืองทองคำคิงส์เกตในนามบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ดังต่อไปนี้
1. การมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ในการประกอบกิจการเหมืองทองคำดังกล่าวที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และจ.พิษณุโลก ถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำมาโดยตลอด เพราะไม่มีมาตรการทางสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชน ที่บังคับใช้เป็นการเฉพาะ มีแต่การปรึกษาหารือในระดับแจ้งเพื่อทราบ 2. ระดับความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาชุมชนของเจ้าของกิจการอยู่ในระดับต่ำ 3. เป็นการทำเหมืองโดยไม่มีแนวกันชนที่ต้องรักษาระยะห่างระหว่างชุมชนกับเขตเหมืองแร่ และ 4.เป็นการทำเหมืองที่หลีกเลี่ยงหรือหาช่องโหว่ของกฎหมาย เพื่อไม่สร้างหลักประกัน และแผนปฏิบัติการในการฟื้นฟูเหมืองที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ดังนั้น การให้บริษัท คิงส์เกตฯ ได้รับอนุญาตประทานบัตรให้กลับมาทำเหมืองใหม่ ซึ่งเป็นการได้รับอนุญาตประทานบัตร และการอนุญาตผลประโยชน์อื่น ที่เกินไปกว่าข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการ เพื่อแลกกับการที่รัฐบาลไม่ต้องถูกอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งชี้ขาดให้ต้องแพ้คดี และต้องเสียค่าปรับประมาณ 24,750 ล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน โดยเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่พบข้อมูลว่าผลประโยชน์ที่ได้เกินกว่าข้อพิพาท ด้วยเหตุนี้ ทางเครือข่ายฯ จึงต้องการให้กลไกฝ่ายนิติบัญญัติ ดำเนินการตรวจสอบอำนาจของฝ่ายบริหาร ในการสั่งให้เหมืองทองคำคิงส์เกตกลับมาเปิดได้ใหม่ โดยขอให้นำปัญหานี้ไปอภิปรายเพื่อซักถามข้อเท็จจริงรัฐบาล รวมถึงหาข้อมูลข้อเท็จจริงในกระบวนการอนุญาโตตุลาการที่ถูกปกปิดไว้ มาเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อทำให้สังคมไทยโปร่งใสขึ้น ด้านนายชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กลไกของสภาตามที่เครือข่ายฯ ประสงค์ ซึ่งในประเด็นนี้ฝ่ายค้านได้ให้ความสนใจและนำเข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจมาโดยตลอด รวมถึงบรรจุประเด็นนี้ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งจะเกิดขึ้นในปลาย ก.พ. นี้ นอกจากนี้ จะตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาเพื่อถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมลงพื้นที่รับฟังปัญหา และผลักดันเข้าสู่คณะ กมธ. เพื่อให้มีการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|