FONTSIZE
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร
ประธานคณะ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ รับยื่นหนังสือจาก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไฮ-พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขอให้คณะ กมธ. ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับพวก กรณีการสร้างท่าเทียบเรือลอยน้ำ อ่าวโล๊ะซะมะ โดยมิชอบ

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 17 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ รับยื่นหนังสือจาก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไฮ-พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขอให้คณะ กมธ. ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับพวก กรณีการสร้างท่าเทียบเรือลอยน้ำ อ่าวโล๊ะซะมะ โดยมิชอบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 62 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และบริษัท ไฮ-พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ทำสัญญาซื้อขาย โครงการ “การจัดหาท่าเทียบเรือลอยน้ำ” เพื่อควบคุมการเข้า-ออกของเรือในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมติดตั้ง จำนวน 1 ชุด ด้วยการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เป็นราคาทั้งสิ้น 49,630,000 บาท โดยมีกำหนดส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 29 ส.ค. 62 โดยหลังจากบริษัทฯ  ได้ทำหนังสือแจ้งให้กรมอุทยานฯ ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทฯ เพื่อดำเนินการตามสัญญาหลายครั้ง แต่กรมอุทยานฯ กลับเพิกเฉย แต่ต่อมากลับมีหนังสือแจ้งว่าจะปรับบริษัทฯ ตามสัญญา ซึ่งบริษัทฯ ได้ชี้แจงให้กรมอุทยานฯ ทราบแล้วว่า เหตุเป็นเพราะกรมอุทยานฯ ยังไม่ส่งมอบพื้นที่หน้างานให้แก่บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา กรมอุทยานฯ จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับ อีกทั้งกรมอุทยานฯ ยังมิได้ก่อสร้างทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำ สำหรับให้สะพานท่าเทียบเรือลอยน้ำของบริษัทฯ มาเชื่อมต่อ จนในที่สุดกรมอุทยานฯได้มีหนังสือตอบบริษัทฯ ว่า ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่หน้างานให้บริษัทฯ ได้ เพราะกรมอุทยานฯ ยังสร้างทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำไม่แล้วเสร็จจริง หากเสร็จเมื่อใดจึงจะส่งมอบพื้นที่หน้างานให้บริษัทฯ จากนั้น บริษัทฯ จึงได้ทำหนังสือถึงกรมอุทยานฯ ขอขยายสัญญาเป็น 90 วัน

ต่อมากรมอุทยานฯ ได้ส่งมอบพื้นที่หน้างานให้กับบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯ เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานเข้ากับทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำ แต่กลับไม่สามารถติดตั้งได้ เนื่องจากกรมอุทยานฯ สร้างทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำยาวเลยคานคอนกรีตออกมาประมาณ 2 เมตร ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักสะพานท่าเทียบเรือลอยน้ำสแตนเลส ซึ่งมีน้ำหนักถึง 2.1 ตัน ได้ และอาจทำให้โค่นล้ม หรือพังทลายลง ดังนั้นในวันที่ 11 มี.ค. 64 บริษัทฯ จึงได้แจ้งอุปสรรคในการดำเนินงานครั้งที่1 ให้กับกรมอุทยานฯ ทราบ และเสนอให้ตัดรื้อทางเดินส่วนเฉพาะที่ยื่นออกมาจากคานคอนกรีต เพื่อให้ติดตั้งสะพานท่าเทียบเรือลอยน้ำได้ แต่กรมอุทยานฯ กลับเพิกเฉย กระทั่งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 บริษัทฯ ได้มีหนังสือทวงถามขอให้กรมอุทยานฯ ส่งมอบพื้นที่หน้างานที่แก้ไขแล้วให้กับบริษัทฯ ขณะเดียวกันคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ไปตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ท่าเทียบเรือลอยน้ำของบริษัทฯ แล้ว ผลการตรวจถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามสัญญาทุกประการ


ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. 64 กรมอุทยานฯ ได้มีหนังสือถึงบริษัทฯ แจ้งว่าบริษัทฯ ไม่ได้กำหนดรูปแบบ และวิธีการตัดทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำ ซึ่งบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ไม่ใช่งาน หรือหน้าที่ตามสัญญาของบริษัทฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจะเห็นได้ว่าสาเหตุที่บริษัทฯ ไม่สามารถติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำได้นั้น เป็นเพราะกรมอุทยานฯ ยังไม่ได้ส่งมอบหน้างานที่เสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะให้บริษัทฯ ดำเนินการติดตั้งสะพานท่าเทียบเรือลอยน้ำ

จากนั้น กรมอุทยานฯ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่5 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง และในวันที่ 9 มิถุนายน 2564 คณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงได้มีการพิจารณาให้ตัดทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำที่ยื่นออกมายาวประมาณ 2 เมตร นั้นเสีย โดยวิศวกรโยธาในคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงมีความเห็นเพิ่มเติมว่า ควรให้มีการเสริมความแข็งแรงของทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำดังกล่าว และในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และบริษัทฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจพัสดุปรากฏว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำของบริษัทฯ ครบถ้วนเป็นไปตามสัญญาทุกประการ

นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ยังได้นำแบบก่อสร้างทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรมนำมาประมูลจ้าง และก่อสร้างจนแล้วเสร็จมาถึงปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ เห็นว่าหากนำท่าเทียบเรือลอยน้ำไปเชื่อมต่อกับทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำดังกล่าว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียหายถึงแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว บริษัทฯ อาจโดนข้อหาประมาทร่วมจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต จึงได้มีหนังสือถึงกรมอุทยานฯ ให้มีการแก้ไขทางเดินรับท่าเทียบเรือลอยน้ำดังกล่าว แต่ปรากฏว่ากรมอุทยานฯ ก็ยังคงเพิกเฉยมาตลอด จนกระทั่งคณะ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบพบว่ามีการกระทำการดังกล่าวจริง และวิศวกรโยธาให้ความเห็นว่า การปรับปรุงโครงสร้างดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ผิดหลักวิศวกรรม เนื่องจากมีการสกัดโครงสร้างเดิมออก ทำให้ความสามารถรับน้ำหนักลดน้อยลง  จึงเป็นอันตรายอย่างมากต่อความปลอดภัยของโครงสร้างท่าเทียบเรือสาธารณะนี้ จึงขอให้คณะ กมธ. ตรวจสอบในกรณีดังกล่าว

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวว่า จะนำรายงานการลงพื้นที่ของคณะ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาศึกษาประกอบกับคำร้องเรียนของนายอนันต์ชัย ไชยเดช และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ. ต่อไป
download download Download all images download


  • การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร    download_icon

 แสดงทั้งหมด...
Untitled Document

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562