 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ คนที่สอง พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกคณะ กมธ. และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา กมธ. แถลงข่าว ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 16 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 13.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ คนที่สอง พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกคณะ กมธ. และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา กมธ. แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินการของคณะ กมธ. ซึ่งได้พิจารณานโยบายและแนวทางในการจัดระเบียบไฟฟ้าและสายสื่อสารอันถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งหาทางแก้ไข เนื่องจากหลายเส้นทางในพื้นที่ชุมชนที่ประชาชนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น ขาดการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสื่อสารอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมและรกรุงรังของสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าในปัจจุบัน ที่จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะก่อให้เกิดปัญหาและอันตรายนานัปการ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบคณะ กมธ. จึงได้พิจารณาศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวิธีการและรูปแบบที่สอดคล้องเหมาะสมในการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสื่อสารให้เกิดประสิทธิภาพ ดังนี้
1. การให้ความร่วมมือของผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของและผู้วางระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร ที่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ต่อสาธารณชนเป็นสำคัญ ซึ่งจำแนกได้เป็นสองกรณี คือ 1) กรณีการจัดระเบียบสายไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นการนำลงใต้ดิน หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลในเรื่องดังกล่าวจะเป็นหน่วยงานของรัฐหรืออยู่ในการกำกับดูแลของรัฐ โดยปัจจุบันมีโครงการนำสายไฟฟ้าลงสู่ใต้ดินตามเส้นทางต่าง ๆ ตามนโยบายการปรับปรุงภูมิทัศน์ในสถานที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดโดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ปัญหาสำคัญ คือ ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก 2) กรณีการจัดระเบียบสายสื่อสารซึ่งส่วนใหญ่พาดไปกับเสาไฟฟ้า และเป็นการดำเนินงานโดยเอกชน ประกอบกับนโยบายของรัฐยังขาดแนวทางที่ชัดเจน รวมทั้งหน่วยงานผู้ปฏิบัติที่มีหลากหลายและมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดูแลคาบเกี่ยวกันอยู่ ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้น ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน รวมทั้งการกำหนดผู้รับผิดชอบหลัก ตลอดจนปัจจุบันยังไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์เฉพาะที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบสายสื่อสารที่จะนำมาใช้บังคับกับผู้ประกอบการได้โดยตรง 2.การสนับสนุนและส่งเสริมการจัดระเบียบสายสื่อสารจากภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้นโยบายการจัดระเบียบดังกล่าวเกิดผลสัมฤทธิ์ได้โดยเร็วยิ่งขึ้น อาทิ การจัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบสายสื่อสารเป็นวาระแห่งชาติ การสร้างแรงจูงใจ หรือลดภาระต้นทุนการดำเนินงาน และสนับสนุนส่งเสริมค่าใช้จ่ายจากภาครัฐโดยตรง ทั้งนี้ คณะ กมธ. ได้ตั้งคณะอนุ กมธ. 3 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะอนุ กมธ. การจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา เป็นประธาน 2. คณะอนุ กมธ. การจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างในเขตพื้นที่ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และเขตพิเศษอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี โดย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็นประธาน และ 3. คณะอนุ กมธ. การจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ เป็นประธาน เพื่อดำเนินการพิจารณาศึกษาหาวิธีการและรูปแบบที่สอดคล้องเหมาะสมในการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารในพื้นที่ต่าง ๆ โดยมุ่งพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนและแนวทางที่นำไปสู่การผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็ว และยั่งยืนต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|