 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ประธานคณะ กมธ. วิสามัญศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ รับยื่นหนังสือจากนายสาธุ อนุโมทามิ หัวหน้าพรรคไทยราชสีห์ดี และประธานกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ พร้อมคณะ เรื่องขอสนับสนุนการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
|
|
วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 11.15 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานคณะ กมธ. วิสามัญศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ รับยื่นหนังสือจากนายสาธุ อนุโมทามิ หัวหน้าพรรคไทยราชสีห์ดี และประธานกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ พร้อมคณะ เรื่องขอสนับสนุนการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ สืบเนื่องจากกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าพรรคการเมืองหลายท่านได้เข้าร่วมประชุม สัมมนา และมีโอกาสลงพื้นที่กับทางคณะกมธ. และคณะอนุกมธ.ทั้ง 3 คณะ มาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด จากการกำหนดพื้นที่ศึกษาตามแนว 9 A ของคณะกมธ. ผ่านพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดตรัง กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา โดยมีการเชิญหน่วยงาน นักวิชาการ ภาคประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ทางกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ จึงขอแสดงพลังร่วมสนับสนุนรายงานผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ของคณะกรรมาธิการให้ทางสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลดำเนินการศึกษาเชิงลึกและดำเนินการกำหนดเป็นนโยบายในการขุดคลองไทยและพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้โดยเร็ว โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า คณะกมธ.วิสามัญศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ได้ดำเนินการพิจารณารายงานเสร็จแล้ว และกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันศุกร์นี้ (17 ธ.ค.64) อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้เป็นรายงานที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะพี่น้องชาวภาคใต้และพรรคการเมืองต่าง ๆ ตนจึงขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายเห็นถึงความสำคัญของการขุดคลองไทยและการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ และเป็นโครงการที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากความยากจนและสามารถปลดหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือน 14 ล้านล้านบาทได้ ทั้งนี้ จะขอรับเรื่องดังกล่าวไปนำเรียนต่อคณะ กมธ.ต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|