FONTSIZE
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร
รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งและการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ คนที่สาม และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 25 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.40 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายประเสริฐพงษ์  ศรนุวัตร์ รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งและการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ คนที่สาม และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน สืบเนื่องจากสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งทะเลในประเทศไทยที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ ภัยทางธรรมชาติ และการคุกคามจากมนุษย์ โดยปัจจุบันสาเหตุหลักของการกัดเซาะชายฝั่งในประเทศไทยมาจากการแทรกแซงกระบวนการทางธรรมชาติของหาดทราย ด้วยโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลและการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่ไม่คำนึงถึงระบบธรรมชาติของทะเล ส่งผลให้หาดทรายเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ซึ่งคณะ กมธ.พิจารณาแล้ว พบว่าปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่กล่าวมานั้น มีสาเหตุมาจากปัญหาเชิงนโยบายที่เห็นเป็นที่ประจักษ์ ดังนี้

1. การเพิกถอนกำแพงกันคลื่นออกจากโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) ทำให้เกิดกำแพงกันคลื่นในหลายพื้นที่ชายหาด เป็นการทำลายหลักประกันสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และทำให้เกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งจนเป็นคดีความ ไม่น้อยกว่า 3 คดี ได้แก่ คดีอ่าวน้อย คดีหาดม่วงงาม และคดีหาดมหาราช 

2. การที่รัฐไม่ส่งเสริมความรู้ในการจัดการชายฝั่ง และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการจัดการทรัพยากรชายหาด ทำให้ชุมชนไม่มีความรู้ และไม่สามารถเข้าร่วมกำหนดเจตจำนงของตนในการจัดการทรัพยากรชายหาดอย่างแท้จริง

3. การกำหนดมาตรการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ อาทิ เมื่อเกิดการกัดเซาะชายฝั่งเพียงชั่วคราวในช่วงมรสุม แต่รัฐกลับดำเนินมาตรการถาวร เช่น จัดทำกำแพงกันคลื่นในพื้นที่ชายหาดที่มีการกัดเซาะชายฝั่งระยะสั้น เป็นต้น

4. การที่รัฐไม่สนับสนุนและผลักดันมาตรการอื่น ๆ ในการฟื้นฟูชายฝั่งและปรับสมดุลให้แก่ธรรมชาติ อาทิ การเติมทราย การถ่ายเททรายข้ามร่องน้ำ การกำหนดแนวถอยร่น การกำหนดเขตการใช้ประโยชน์เพื่อคุ้มครองชายฝั่ง รวมถึงการรื้อถอนโครงสร้างที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ชายฝั่งได้ฟื้นฟูสภาพ 

5. ปัญหาอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่ทับซ้อนกันในการแก้ไขปัญหา ทำให้หลายพื้นที่ชายหาดมีมาตรการป้องกันชายฝั่งที่ทับซ้อนกัน เกิดความไม่เป็นเอกภาพ และไม่มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน

6. การที่รัฐไม่กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทำให้ท้องถิ่นซึ่งมีความยึดโยงกับประชาชนมากกว่ารัฐส่วนกลาง และเข้าใจสถานการณ์ปัญหาของพื้นที่ได้ดีกว่าไม่สามารถแก้ไขหรือจัดการปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ เพราะไม่มีอำนาจและงบประมาณในการบริหารจัดการ

7. ปัญหาการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยปัจจุบันการตัดสินใจดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งนั้น ประชาชนกลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการรับฟังความคิดเห็นที่หน่วยงานกำหนดรูปแบบโครงการมาให้ทำให้ประชาชนไม่มีโอกาสเลือกแนวทางในการป้องกันและแก้ไขการกัดเซาะ
ชายฝั่งได้

8. กระบวนการในการพิจารณาอนุมัติโครงการกำแพงเขื่อนกันเคลื่อนที่ใช้เพียงชายหาดและเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลเท่านั้น ทำให้โครงการขาดความรอบคอบ และขาดความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
download download Download all images download


  • การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร    download_icon

 แสดงทั้งหมด...
Untitled Document

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562