 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ประธานคณะ กมธ. กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน และนายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ โฆษกคณะ กมธ. แถลงข่าวผลการประชุม ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 7 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
|
วันพฤหัสบดี 7 ตุลาคม 2564 เวลา 13.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน และนายกษิดิ์เดช
ชุติมันต์ โฆษกคณะ กมธ. แถลงข่าวผลการประชุม ซึ่งในวันนี้คณะ กมธ. ได้พิจารณา 2 ประเด็น คือ 1.การใช้งบประมาณของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ไม่ได้มาร่วมชี้แจงและไม่ได้แจ้งเหตุผลว่าติดขัดด้วยเหตุใด ทั้งนี้ คณะ กมธ. จะพิจารณาต่อในสัปดาห์หน้าว่ากองทุนดังกล่าวใช้งบประมาณถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 2.พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ทำประกันภัยโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ทั้งหมด 16 ล้านกรมธรรม์ ดำเนินการโดยบริษัทประกันภัยจำนวน 8 บริษัท และบริษัทอื่น ๆ จำนวน 28 บริษัท โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ชี้แจงว่าใช้งบประมาณในการชดเชยเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบไปแล้วประมาณ 19,300 ล้านบาท อีกทั้ง ได้มีบริษัทประกันภัยจำนวนมากเอาเปรียบพี่น้องประชาชน โดยการรณรงค์ให้ทำประกันภัยโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการติดเชื้อโควิด-19 กลับไม่จ่ายเงินชดเชยตามข้อตกลง ซึ่ง คปภ. ชี้แจงว่าตามข้อกฎหมายทำได้แค่ลงโทษโดยการปรับ แต่หากบริษัทประกันภัยไม่จ่ายตามสัญญา แนะนำให้ผู้เสียหายฟ้องคดีทางแพ่ง หรือดำเนินการฟ้องอนุญาโตตุลาการ คปภ. ด้วยตนเอง ทั้งนี้ คณะ กมธ.มีข้อสังเกตและข้อห่วงใยหลายประการ และขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการคลังในฐานะที่กำกับดูแล คปภ. และธุรกิจประกันภัยโดยตรงว่า ไม่ควรผลักภาระให้ประชาชนต้องดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งเอง แต่ควรมีมาตรการควบคุมดูแลให้บริษัทที่เอาเปรียบประชาชนจ่ายค่าชดเชยตามที่ได้ทำสัญญาไว้ อีกทั้งขอเตือนไปยังประชาชนว่า ควรพิจารณาไตร่ตรองและศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ บริษัทที่จะทำสัญญาอย่างละเอียดรอบคอบก่อนจะทำสัญญาเพื่อไม่ให้ถูกเอาเปรียบได้ในภายหลัง
นอกจากนี้ ขอฝากไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้ตรวจสอบกรณีหน่วยงานทางการแพทย์ที่ลงพื้นที่ตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK แล้วส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ นั้น มีการเอื้อผลประโยชน์ให้กันหรือไม่ |
 |
 |
 |
 |
|