FONTSIZE
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร
นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมของคณะ กมธ.

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.15 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมของคณะ กมธ. ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

1. กรณีการตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ผิดจริยธรรมหรือไม่ โดยคณะ กมธ. ได้เชิญอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศในช่วงปี 2559 - 2563 และปลัดกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน มาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประสานข้อมูลไปยังออสเตรเลียเพื่อขอสำเนาคำพิพากษาของศาลแขวงและศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ตามที่คณะ กมธ. และศาลรัฐธรรมนูญได้เคยร้องขอต่อกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งคณะ กมธ.มีข้อข้องใจในหลายประเด็น อาทิ การที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ส่งเอกสารตามที่คณะ กมธ. ร้องขอ แต่กลับไปสอบถาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเป็นผู้ถูกตรวจสอบ อีกทั้งคณะ กมธ.เคยได้รับหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อปี 2540 ซึ่งเป็นข้อมูลรายละเอียดคดีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มายังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จึงแสดงให้เห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศมีข้อมูลอยู่แล้วแต่เมื่อคณะ กมธ.ร้องขอกลับแจ้งว่าไม่มีข้อมูล รวมทั้งคณะ กมธ .ยังเคยมีหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เมื่อปี 2562 เพื่อขอข้อมูลสำเนาคำพิพากษาและเอกสารอื่นในคดีนี้ และได้รับคำตอบว่า สถานเอกอัครราชทูตยินดีให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลต่าง ๆ เพียงขอให้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ให้ความร่วมมือกับคณะ กมธ. 

ทั้งนี้ คณะ กมธ. มีอำนาจในการขอเอกสารใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 และตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 24 อนุ 6 และอนุ 8 โดยหน่วยงานของรัฐสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นหรือผู้อื่น โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ล่วงหน้าหรือในขณะนั้นมิได้ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อการป้องกันการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน การสอบสวน หรือการฟ้องคดีไม่ว่าคดีประเภทใดก็ตาม และเป็นการเปิดเผยต่อศาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะขอข้อเท็จจริงดังกล่าว อีกทั้งยังมีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 6/2564 เรื่องคุณสมบัติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งในหน้าที่ 5 มีคำวินิจฉัยในวรรคแรกว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาอาศัยตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 27 วรรคสาม ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือเรียกสำเนาคำพิพากษาศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์  ลงวันที่ 13 มี.ค. 37 และสำเนาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวลส์ ลงวันที่ 10 มี.ค. 38 และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจากผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และปลัดกระทรวงต่างประเทศ เพื่อดำเนินการช่องทางการทูตโดยมีทางราชการรับรองสำเนาถูกต้อง แต่เหตุใดกระทรวงการต่างประเทศจึงไม่ดำเนินการช่องทางการทูต ซึ่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า สำเนาคำพิพากษาศาลแขวงและสำเนาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวลส์ดังกล่าวเป็นข้อมูลทางการออสเตรเลียและไม่อยู่ในความครอบครองของกระทรวงการต่างประเทศที่จะสามารถจัดส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสังเกตว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการประสานข้อมูลกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้อย่างครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญจะต้องชี้แจงต่อสาธารณชนให้ได้รับทราบในประเด็นดังกล่าวด้วย

2. กรณีกองทัพบกอนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พักอาศัยในบ้านพักรับรองโดยใช้งบประมาณของกองทัพบกจ่ายค่าน้ำและค่าไฟ ซึ่ง พล.ท.มานัสชัย ศรีประจันทร์ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก ได้มาชี้แจงต่อคณะ กมธ. ว่า นายกรัฐมนตรีอาศัยอยู่ในบ้านพักกองทัพบกตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ราชพัสดุในความดูแลของกองทัพบก ในส่วนของกรมกำลังพลทหารบกมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการออกระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยบ้านพักรับรอง พ.ศ. 2548 โดยออกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547 ซึ่ง กมธ. เห็นว่าเรื่องดังกล่าวนั้นแต่เดิมกองทัพบกเคยแจ้งว่าเป็นเรื่องระเบียบภายในเท่านั้น อีกทั้งระเบียบดังกล่าวไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าระเบียบนี้มีมาแต่เดิมเมื่อปี 2548 หรือเพิ่งจะมาเพิ่มเติมภายหลัง สำหรับหลักเกณฑ์ที่สามารถเข้าพักอาศัยได้คือต้องเป็นข้าราชการกองทัพบกยศสูงสุดคือระดับ พล.อ. และอดีต ผบ.ทบ. และปัจจุบันทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ สามารถพักอาศัยได้แม้จะมีบ้านพักส่วนตัวของตนเอง โดยจะต้องทำคำร้องผ่านกรมสวัสดิการทหารบก ในส่วนการจ่ายค่าน้ำและค่าไฟนั้น ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยบ้านพักรับรอง พ.ศ. 2548 ระบุว่าให้กองทัพบกเป็นผู้จ่าย อย่างไรก็ดี ได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายค่าน้ำและค่าไฟให้ผู้พักอาศัยออกค่าใช้จ่ายเองในเดือน ต.ค. 63 จึงเป็นการรับข้อเท็จจริงว่าก่อนหน้านี้กองทัพบกได้จ่ายค่าน้ำและค่าไฟให้นายกรัฐมนตรี และจากการรับฟังคำชี้แจงยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าพักอาศัยในบ้านรับรองของกองทัพบกในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านพักของนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้น คณะ กมธ.  จะดำเนินการตรวจสอบให้ถึงที่สุดและหาความจริงให้ได้มากที่สุดต่อไป

download download Download all images download


  • การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร    download_icon

 แสดงทั้งหมด...
Untitled Document

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562