วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.35 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ (โซนกลาง) ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน รับยื่นหนังสือจาก นายนนทเดช บูรณะสิทธิพร ตัวแทนสมาพันธ์กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล พร้อมคณะ เรื่อง การขอมาตรการผ่อนปรนและมาตรการเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่ 3 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 19) ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 โดยระบุหัวข้อหลัก 3 ข้อ ว่าด้วยการกำหนดให้มีการปิดสถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาด การพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการและการตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ

 

ทั้งนี้ จากคำสั่งดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงทั้งหมด ซึ่งไม่ได้มีแต่เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ประกอบการแต่รวมไปถึงลูกจ้างทุกประเภททั้งที่เข้าระบบประกันสังคม และกลุ่มอาชีพอิสระที่รับค่าจ้างแบบรายวัน อาทิ นักดนตรี พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ พนักงานเชียร์สินค้า พนักงานโบกรถ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดกลางคืน และร้านอาหารข้างทางต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมายังมีผู้ได้รับผลกระทบและไม่สามารถเข้าถึงการเยียวยาจากภาครัฐได้อย่างครบถ้วน ทางสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอข้อเรียกร้องและแนวทางการช่วยเหลือ ดังนี้
1. ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม
2. ขอให้มีคำสั่งปลดล็อคเพื่อให้ธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค. เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค และกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการอนุญาตให้กลับมาประกอบธุรกิจ
3. ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้
4. ผ่อนปรนให้มีการจัดงานมหรสพโดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค. เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
5. พิจารณาการจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงโดยเร็วที่สุด
6. พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และหรือ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำต่อผู้เดือดร้อนตั้งแต่การออกคำสั่งครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 63
7. เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน หรือประชาชนในกลุ่มภาคธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วม
ด้านนายสิระ เจนจาคะ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อพรรคพลังประชารัฐภายในวันนี้ (6 ก.ค. 64) และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ. โดยจะเชิญ ศบค. มาให้ข้อมูลเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป