ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองประธานคณะ กมธ.พิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คนที่สี่ พร้อมด้วย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ รับยื่นหนังสือจากนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มราษฎร และตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงและธุรกิจกลางคืน

วันพุธที่ 30 มิถุนาย 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองประธานคณะ กมธ.พิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คนที่สี่ พร้อมด้วย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ รับยื่นหนังสือจากนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มราษฎร และตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงและธุรกิจกลางคืน เพื่อยื่นข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน และผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 รวมทั้งการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อออกคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาด ซึ่งรวมถึงนโยบายการห้ามนั่งรับประทานในร้านอาหาร นโยบายการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือผับ/บาร์ และนโยบายสั่งปิดสถานบันเทิงในพื้นที่จังหวัดสีแดง 18 จังหวัด โดยนโยบายเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน และผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิง เป็นอย่างมาก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางรัฐบาล และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่เคยให้เหตุผลหรือหลักฐานเชิงประจักษ์ในการออกนโยบายดังกล่าว รวมถึงการบังคับใช้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง "ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563" ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 30(6) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ทำให้ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายย่อยที่ไม่ใช่ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า เผชิญกับความยากลำบากมากยิ่งขึ้น โดยการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น เป็นสถานการณ์ต่อเนื่องมาจากปี 2563 ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึงความหละหลวมของรัฐบาลในการวางแผนสถานการณ์ล่วงหน้า และความล้มเหลวในการฉีดวัคซีนให้ทันแก่เวลา ทำให้สถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายเดือน อีกทั้งทางกลุ่มผู้ประกอบการเองก็ต้องการนโยบายที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพคล่องของกิจการในสถานการณ์เช่นนี้ จึงขอเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ยกเลิกคำสั่งปิดร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มแบบเหมารวม ให้มีการปิดเฉพาะร้านที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน เท่านั้น
2. ให้ธุรกิจร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม สามารถกลับมานั่งได้ร้อยละ 25 - 35 โดยปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด
3. ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคภายในร้านได้แบบจำกัดเวลาหรือควบคุมปริมาณลูกค้าภายในร้าน
4. จัดเงินกู้ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยปราศจากดอกเบี้ยเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในเบื้องต้น