วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 13.40 นาฬิกา ณ จุดรับ-ยื่นหนังสือ ชั้น 1 บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร์ พร้อมด้วย นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และพ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก นายวรา จันทร์มณี เครือข่ายเขียนอนาคตประเทศไทย เรื่อง ขอให้ตรวจสอบ การทำงานของคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ สืบเนื่องจากเครือข่ายเขียนอนาคตประเทศไทยได้ติดตามการทำงานของคณะ กมธ. ชุดนี้มาโดยตลอด จึงมีข้อห่วงกังวล ดังนี้
1. คณะ กมธ. มีหน้าที่ศึกษาเพื่อเสนอแนะต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วยความเป็นกลาง แต่ที่ผ่านมากลับมุ่งหน้าผลักดันคลองไทยด้วยการใช้วิธีการต่าง ๆ ซึ่งทางภาคีภาคใต้เห็นว่าเป็นการกระทำผิดที่จริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ
2. การแต่งตั้งอนุ กมธ. ดำเนินการด้วยความไม่เป็นกลาง เนื่องจากปรากฏบุคคลซึ่งสนับสนุนการขุดคลองไทย เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษา กมธ. และอนุ กมธ. ซึ่งเป็นปัจจัยบ่งชี้ว่าไม่ได้มีเป้าหมายในการศึกษาด้วยความเป็นกลาง แต่มุ่งมั่นผลักดันการขุดคลองไทย
3. บุคคลที่ กมธ. แต่งตั้งมาเป็นที่ปรึกษาและอนุ กมธ. ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนการขุดคลองไทยนั้น เป็นกลุ่ม ซึ่งได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ต่อสาธารณะที่ปราศจากข้อเท็จจริง เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการหลอกลวงสาธารณะ เช่น การขุดคลองไทยสามารถแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ เป็นต้น
4. การทำหน้าที่ของคณะ กมธ. ไม่ได้ดำเนินการด้วยความเป็นกลางแสดงให้เห็นถึงการทำเกินกว่าคำสั่งแต่งตั้งให้ศึกษาข้อเท็จจริง แต่กลับแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการสร้างคลองไทย เพราะได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทเอกชนเพื่อศึกษาให้เกิดการขุดคลองไทย บทบาทดังกล่าวควรเป็นของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ การกระทำดังกล่าวส่อเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าคณะ กมธ. ชุดนี้มีวาระซ่อนเร้นและผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ จึงขอให้ตรวจสอบต่อประเด็นนี้เป็นกรณีสำคัญ
5. เจตนารมณ์การผลักดันการสร้างคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษของคณะ กมธ. ชุดนี้
นอกจากประเด็นที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีข้อบ่งชี้สำคัญคือ กมธ. 3 ท่านได้เสนอร่าง พ.ร.บ. การขุดคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญของการผลักดันการสร้างคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว คณะ กมธ. ชุดนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อผลักดันโครงการไม่ได้แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อแก้ปัญญาให้กับสังคม ทั้งนี้ ในฐานะที่สภาผู้แทนราษฎรเป็นสถาบันอันทรงเกียรติ จึงมิควรกระทำการใดที่ก่อเกิดความสับสนและเอนเอียงไปยังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะโครงการนี้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ควรที่จะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และขอให้ตรวจสอบการทำงานของคณะ กมธ. ชุดดังกล่าว โดยเฉพาะประธานอนุ กมธ. ทั้ง 3 ชุด ว่าได้กระทำการโดยสุจริต และถูกต้องตามบทบาทหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่
โดย นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า จะส่งต่อเรื่องดังกล่าว กราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้มีการร้องเรียน โดยที่ผ่านมาคณะ กมธ. ชุดนี้ได้รับการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งถึงบทบาทและจริยธรรมการดำเนินงาน พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการผลักดันให้เกิดการตรวจสอบตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วนต่อไป |