 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ประธาน กมธ. การสาธารณสุข และคณะ รับยื่นหนังสือจากนางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ ประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ และคณะ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 1 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
|
วันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และคณะ รับยื่นหนังสือจากนางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ ประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ และคณะ เรื่องขอให้พิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการละเมิดเภสัชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไทย รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาและนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาใช้ป้องกันและรักษาโรคอุบัติใหม่ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นคลังยาสมุนไพรและเป็นศูนย์กลางการเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวมของโลก เนื่องจากกาพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ประสบปัญหาอุปสรรคเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ประเทศไทยเราขาดโอกาสในการมีตำรับยาแห่งชาติที่มีประสิทธิภาพนำมาใช้ป้องกันและรักษาโรคภัยไขเจ็บของประชาชนทั้งที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 55 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้ายาจากการแพทย์แผนตะวันตกเป็นจำนวนเงินมากหลายล้านบาทต่อปี แตกต่างจากบางประเทศ แต่ในประเทศไทยของเรากลับถูกมองข้ามความสำคัญของสมุนไพรตำรับยาแผนไทย ได้รับงบประมาณเพื่อการวิจัยพัฒนา ต่อยอดน้อยมาก และขาดการส่งเสริมสนับสนุนทั้งการปลูก การแปรรูปและการตลาด
นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยพืชสมุนไพรเดี่ยว แต่ไม่วิจัยตำรับยาสมุนไพรไทยแล้วนำมาใช้รักษาโรคในสถานพยาบาลของรัฐอย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยก็มีนักวิจัยอยู่จำนวนมาก ทางสภาครูแพทย์แผนไทยได้ร้องเรียนมายังองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยขอให้แก้ไขปัญหาการละเมิดเภสัชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไทย ตลอดจนทำให้เกิดข้อสงสัยหลายประการว่าทำไมตำรับยาแผนไทยจึงถูกปิดกั้นตลอดมา จึงขอเรียกร้องให้ประธานคณะ กมธ.การสาธารณสุขพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตำรับยาแผนไทยสรรพคุณทางยา ป้องกัน ยับยั้ง บำบัดโรคอุบัติใหม่ (โควิด-19) จากองค์ความรู้ด้านเวชกรรมไทยเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของตำรับยาแผนไทยให้หมดสิ้นไปด้าน นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า คณะ กมธ. ขอขอบคุณองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติที่ได้ให้ความสำคัญกับยาสมุนไพรไทย ซึ่งทางคณะ กมธ.การสาธารณสุขก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยจะขอรับเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะ กมธ. เพื่อพิจารณาและจะตั้งคณะอนุ กมธ. เพื่อพิจารณาศึกษาต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|