FONTSIZE
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร
โฆษกคณะ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รับยื่นหนังสือจาก ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เรื่อง ขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์การควบคุมตัวแกนนำคณะราษฎรและพรรคพวก

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 17 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม โฆษกคณะ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รับยื่นหนังสือจาก น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เรื่อง ขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์การควบคุมตัวแกนนำคณะราษฎรและพรรคพวกตามที่ได้มีการพยายามเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษในยามวิกาล ซึ่งเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวและศาลได้มีหมายขังจำเลยไว้ ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กรมราชทัณฑ์ โดยมีการพยายามใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องขังไปควบคุมตัวนอกแดน เมื่อกลางดึกวันที่ 15 มี.ค. 64 ต่อเนื่องมาจนถึงเช้ามืดวันที่ 16 มี.ค. 64 โดยอ้างว่าเป็นการนำตัวไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ากรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการในการควบคุมผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ อาทิ เปลี่ยนย้ายแดนคุมขังโดยไม่มีเหตุอันควรโดยเป็นสถานที่อื่นนอกหมายขังของศาล ทั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาชนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และจากเหตุการณที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากว่า การนำตัวผู้ต้องขังออกจากแดนกลางดึกต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้ามืดนั้น เป็นการปฏิบัติที่ผิดปกติวิสัย เนื่องจากเป็นการกระทำในยามวิกาล อีกทั้งในความพยามยามปฏิบัติการนำตัวผู้ต้องขังออกจากแดนในช่วงเวลานั้น มีการนำชุดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พร้อมกระบองและบุคคลใส่ชุดสีน้ำเงินที่ไม่ติดป้ายชื่อ ไม่ระบุสังกัด มาเสริมกำลังด้วย อันเป็นการใช้กำลังพลมากผิดปกติ ประกอบกับในระยะนี้มีกระแสข่าวว่าจะมีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรที่ต้องขังอยู่ในเรือนจำ จึงเป็นเหตุให้สงสัยได้ว่าในปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องการนำตัวผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรไปประทุษร้ายตามที่มีข่าวหรือไม่ การกระทำดังกล่าวนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักประกันว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการในการดูแลผู้ต้องขังระหว่างหรือก่อนพิจารณาคดีและผู้ต้องโทษโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและโดยเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงขอร้องเรียนมายังคณะ กมธ. ดังนี้
1. ขอให้กรมราชฑัณฑ์ เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องขังระหว่างเกิดเหตุในคืนดังกล่าว และขอให้คณะ กมธ. ซักถามไต่สวนถึงข้อเท็จจริงและเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการดังกล่าวที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบของกรมราชทัณฑ์
2. ขอให้คณะ กมธ. เรียกตัวผู้บังคับบัญชาการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ และบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในชุดสีน้ำเงินที่ไม่ระบุชื่อและสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนดังกล่าว มาทำการซักถามข้อเท็จจริง
3. ขอให้คณะ กมธ. อภิปรายหารือและจัดทำรายงานข้อเสนอแนะในการทบทวนแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาในยามวิกาล โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน การใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ระบุชื่อและสังกัดมาร่วมปฏิบัติการในคืนดังกล่าว แนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ในกรณีการเปลี่ยนย้ายแดนคุมขังโดยไม่มีเหตุอันควร รวมถึงสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องขัง ที่ควรได้รับอิสระอย่างเต็มที่ ในการหารือข้อต่อสู้กับทนายความ และสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องขังที่ควรจะได้อยู่ร่วมในแดนเดียวกันกับผู้ต้องขังในสำนวนคดีเดียวกัน เพื่อให้สามารถปรึกษาข้อต่อสู้ทางคดีได้อย่างเป็นธรรม รวมถึงพิจารณาข้อหารือ ทั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาชน ขอเสนอมาตรการความปลอดภัยให้ผู้ต้องขังทุกรายได้อยู่ในพื้นที่ที่มีมาตรการความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดที่สามารถสอดส่องดูแลความปลอดภัยของผู้ต้องขังได้ตลอดเวลา ตลอดจนควรมีมาตรการความปลอดภัย ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และควรมีการจัดพื้นที่เฉพาะภายใต้มาตรการความปลอดภัยสูงสุด
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะรับเรื่องร้องเรียนและข้อเรียกร้องต่าง ๆ ไปหารือในคณะ กมธ. โดยในเบื้องต้นจะลงพื้นที่เพื่อพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริง และนำข้อเรียกร้องจากทางเครือข่ายภาคประชาชน หารือกับกรมราชทัณฑ์ต่อไป


download download Download all images download


  • การรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร    download_icon

 แสดงทั้งหมด...
Untitled Document

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562