วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 เวลา 12.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น  1 อาคารรัฐสภา  นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ รองประธานอนุกรรมาธิการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่าอนุรักษ์เพื่อรองรับประชากรช้างป่าอย่างยั่งยืน คนที่หนึ่ง ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า และคณะ แถลงข่าวสรุปผลการประชุมคณะอนุ กมธ. ซึ่งมีกรอบอำนาจหน้าที่ในการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่าอนุรักษ์เพื่อรองรับประชากรช้างป่าอย่างยั่งยืน 13 กรอบ ดังนี้
1.ศึกษาสถานภาพประชากรช้างป่าทั้งในและนอกเขตป่าอนุรักษ์
2.ศึกษาปัญหากรณีสถิติช้างป่าบุกรุกที่ดินทำกินของเกษตรกร และสถิติความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตรในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
3.ศึกษาสาเหตุและปัญหาสถิติช้างป่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมสาเหตุ ทั้งในเขตและนอกเขตป่าอนุรักษ์
4.ศึกษาสาเหตุที่ช้างป่าต้องออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ และศีกษาวิธีการนำช้างป่ากลับคืนเขตป่าอนุรักษ์โดยเร็ว
5. ศึกษาขีดความสามารถของพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ในการที่จะสามารถรองรับประชากรช้างป่าได้
6.ศึกษาการปรับเกลี่ยและเคลื่อนย้ายประชากรช้างป่าจากเขตอนุรักษ์ที่มากเกินความสามารถของพื้นที่ในการรองรับไปยังประชากรช้างป่าได้ไปสู่พื้นที่ป่ามี่อยู่อาศัยธรรมชาติที่มีศักยภาพรองรับแหล่งใหม่ที่สามารถรองรับช้างป่าได้
7.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งเกลือแร่ และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของช้างป่าภายในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อรองรับการรับการผลักดันช้างป่าทั้งหมดกลับสู่เขตป่าอนุรักษ์
8.ศึกษาเพื่อจัดทำแผนงานโครงการเร่งด่วนผลักดันช้างป่าทั้งหมดกลับคืนสู่เขตป่าอนุรักษ์เพื่อความปลอดภัยของคนและช้างป่า
9.ศึกษาสภาพปัญหาและผลกระทบของเขตป่ารอยต่อ
10.ศึกษาการควบคุมประชากรช้างป่า การบริหารจัดการช้างป่า และการใช้ประโยชน์จากช้างป่า
เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน
11. ศึกษาการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับช้างป่าเพื่อจัดตั้งหน่วยงานในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างเป็นระบบ
12.ศึกษามาตรการและวิธการเฝ้าระวัง และเตือนภัยจากช้างป่า
13.ศึกษาเรื่องที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่ามอบหมาย

ทั้งนี้ คณะอนุ กม. มีความเป็นห่วง และตระหนักกังวลประเด็นปัญหาของภัยช้างป่าที่บุกรุกที่ดินทำกินของประชาชน และจะพยายามเร่งรัดเรื่องจัดการเคลื่อนย้ายช้างป่าตัวที่มีปัญหา รวมทั้งเร่งติดตั้งอุปกรณ์ติดตามช้างป่าอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนกลับมาประกอบอาชีพได้ รวมไปถึงการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้มากที่สุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน