นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16.25 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน ซึ่งภายหลังการอภิปรายตนได้เข้าฟังการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยในประเด็นที่ตนเองได้อภิปรายไป แต่อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณทางกระทรวงสาธารณสุขที่ได้แถลงข่าวเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน 10,000,000 ต่อเดือน ทำให้ได้ทราบข้อมูลว่า วัคซีนจำนวนดังกล่าวมีที่มาจากโรงพยาบาล 1,000 แห่ง แต่ละแห่งฉีดได้ 500 โดส ต่อวัน 20 วันต่อเดือน การชี้แจงดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่หากฟังให้ดีจะพบว่าสามารถฉีดวัคซีน 10,000,000 โดสต่อเดือนได้ถ้ามีวัคซีนเพียงพอ ดังนั้นวัคซีนจะมาทัน และมีจำนวนเพียงพอตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นสิ่งที่ประชาชนจะต้องติดตามต่อไป อย่างไรก็ตามตนยังมีข้อสงสัยการผลิตวัคซีนของบริษัท AstraZeneca ประเทศไทย กับบริษัทเอกชนที่เพิ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีปัญหาการผลิต ปัญหาด้านการส่งมอบ เพราะที่ต่างประเทศพบปัญหาเหล่านี้เนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่และใช้เทคโนโลยีใหม่ และประเด็นการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนในประเทศไทยที่มีความแตกต่างกับประเทศอื่น เนื่องจากประเทศไทยจัดหาวัคซีนได้จากเพียงจาก 2 แหล่งเท่านั้น คือจากบริษัท Sinovac Biotech จำกัด จำนวน 2,000,000 โดส และจาก การจัดหาวัคซีนจากการตกลงแบบทวิภาคี Bilateral Agreement (Advanced Market Commitment) กับบริษัท AstraZeneca จำกัด จำนวน 61,000,000 โดส ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลก (Covid-19 Vaccines Global Access Facility : COVAX) หรือไม่ ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่สังคมและประชาชนทุกคนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป