วันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่หลายฝ่ายได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ และมาตรการการป้องกันการแพร่ ระบาดภายในอาคารรัฐสภา โดยมีมาตรการต่าง ๆ ดังนี้ ๑. การเข้าสู่ภายในอาคารจุดประตูใหญ่ ชั้น ๑ ชั้นบี ๑ และชั้น บี ๒ จะใช้เครื่องสแกนวัดอุณหภูมิ หากมีอุณหภูมิเกิน ๓๗.๕ องศา หรือไม่สวม หน้ากากอนามัย เครื่องสแกนจะแจ้งทันที โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม อยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งถ้าหากมีอุณหภูมิสูงเกิน ๓๗.๕ องศา จะให้นั่งพัก ด้านนอก ๕ นาที แล้วทำการวัดอุณหภูมิอีกครั้ง ถ้าหากยังมีอุณหภูมิที่เกินอยู่ จะไม่อนุญาตให้เข้าสู่ภายในอาคารและแจ้งให้ทางสำนักการแพทย์ประจำ รัฐสภาเข้ามาดูแล ในส่วนของเครื่องสแกนอุณหภูมินั้นจะเริ่มเปิดทำการ ตั้งแต่เวลา ๐๕.๓๐ น. และปิดในเวลา ๑๖.๓๐ น. ถ้าหากเป็นวันประชุม สภาผู้แทนราษฎรจะปิดในเวลาเลิกการประชุม ๒. ลิฟต์โดยสารภายในอาคารรัฐสภา จะติดประกาศชัดเจนว่าห้ามเข้า เกินครั้งละ ๖ คน โดยมีมาตรการคือให้หันหน้าเข้าผนังลิฟต์ตามจุดที่กำหนด เอาไว้ โดยห้ามสนทนากัน และจะมีบริการเจลแอลกอฮอล์ด้านหน้าลิฟต์ ๓. บริเวณห้องประชุมสุริยัน ที่ใช้สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น จะขอความร่วมมือจาก ส.ส. และเจ้าหน้าที่ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นผู้อภิปรายและจะมีเจลวางไว้ให้ ณ ที่นั่งของ ส.ส. และจะมีการบรรจุ ในระเบียบวาระ เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบทุกครั้ง ในการขอความร่วมมือ ให้ ส.ส. สวมหน้ากากอนามัยภายในห้องประชุม ๔. บริเวณห้องอาหาร ส.ส. จะมีจุดล้างมือก่อนเข้าสู่ภายในห้องอาหาร โดยผู้ประกอบอาหาร ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และต้องรักษาความสะอาด อุปกรณ์ ผ้ากันเปื้อน ซึ่งจะขอความร่วมมือให้ ส.ส. ไม่ใช้เวลาในห้องอาหาร มากเกินไป ๕. บริเวณห้องประชุมคณะ กมธ. ปัจจุบันค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากบางคณะ มีวาระการประชุมมากจึงเชิญผู้ชี้แจงมาก ดังนั้น ทุกคนในห้องประชุมจะต้องสวม หน้ากากอนามัยยกเว้นผู้ชี้แจงหรือผู้อภิปราย และขอความร่วมมือคณะ กมธ. ให้ลดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม โดยลดวาระการประชุมลงและขอให้แต่ละหน่วยงาน ไม่ควรส่งผู้ชี้แจงเข้ามามากจนเกินไป รวมทั้งขอให้ทางสภาลดจำนวนเจ้าหน้าที่ ภายในห้องประชุมลงด้วย ๖. ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ ภายในสถานที่ทำงานอนุญาตให้ถอดหน้ากาก อนามัยได้แต่เมื่อเดินออกไปตามที่สาธารณะอื่น ๆ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ๗. บริเวณห้องแถลงข่าว ขอความร่วมมือ ส.ส. ผู้สื่อข่าว และผู้มาใช้บริการ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มีการแถลงข่าว ยกเว้นผู้ที่แถลงข่าวอนุญาต ให้ถอดหน้ากากอนามัยได้ รวมทั้งผู้มาร่วมแถลงข่าวไม่ควรเกิน ๑๐ คน ๘. บริเวณห้องอาหารชั้น ๑ จะเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น โดยผู้ประกอบการจะต้อง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการ และจัดโต๊ะ เก้าอี้ ให้มีการเว้นระยะห่าง รวมทั้งเมื่อทานอาหารเสร็จแล้วขอความร่วมมือให้ออกจากห้องอาหารทันที เพื่อ ลดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ตลอดจนให้สำนักที่เกี่ยวข้องให้ความรู้ความเข้าใจกับ ผู้ประกอบการ เกี่ยวกับสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ๙. ขอความร่วมมือไปยังพรรคการเมืองต่าง ๆ และ ครม. โดยขอให้ ส.ส. และ ครม. ๑ คน มีผู้ติดตามไม่ควรเกิน ๑ คน โดยมาตรการต่าง ๆ นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ จึงได้สั่งการให้มีเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น |