วันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๙.๒๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลพิจารณาร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญในวาระที่ ๑ ว่า การรับหลักการในร่างที่ ๑ และร่างที่ ๒ นั้น ยังมีข้อกังวลและได้ตั้ง ข้อสังเกต จากกรณีที่รัฐสภาโหวตไม่รีบหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งเป็นการทำลาย ความฝันของประชาชนจำนวนมากและอาจนำความขัดแย้งกลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ารัฐสภา จะไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พรรคก้าวไกลจะเดินหน้านำหลักการสำคัญ ในร่างฉบับประชาชนไปผลักดันต่อในวาระที่ ๒ ในชั้นกรรมาธิการ โดยการแปรญัตติเพื่อให้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนให้มากที่สุด ในส่วนประเด็นการควบคุมการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ (๑๗ พ.ย. ๖๓) ทาง พรรคก้าวไกลเห็นว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุและไม่ได้เป็นไปตามกฎการใช้กำลังตามหลักสากล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ๒ ฝ่าย เป็นการปฏิบัติ สองมาตรฐาน โดยการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ควรจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน ระหว่างประชาชน ๒ กลุ่ม แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่กลับไม่มีการดำเนินการอย่างเต็มที่และปล่อย ให้เกิดการปะทะกัน นอกจากนี้ ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแถลงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีความเป็นกลาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถยอมรับได้ จึงขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งสอบสวน หาผู้ที่ใช้อาวุธร้ายแรงทำร้ายผู้ชุมนุมมาดำเนินคดี โดยเร็วที่สุด และตอบคำถามต่อสังคมว่าเหตุใดถึงปล่อยให้มีบุคคลบางกลุ่มใช้อาวุธร้ายแรงต่อ ผู้ชุมนุมอีกฝ่ายได้โดยที่ไม่มีการเข้าไประงับเหตุและไม่มีการดำเนินการใด ๆ ต่อกลุ่มผู้ใช้อาวุธ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดชุดเจรจาต่อรองกับผู้ชุมนุมทุกครั้ง เพื่อให้ผู้ชุมนุมเข้าใจวิธีการปฏิบัติ และต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเพื่อคลายความกังวล ของประชาชนที่ต้องการร้องทุกข์หรือเรียกร้องสิทธิ และต้องช่วยกันผลักดันเพื่อให้สิทธิและเ สรีภาพของประชาชนกลับมาอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
|