 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมชุมนุมและได้รับบาดเจ็บ ณ บริเวณอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๗ พ.ย. ๖๓ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 18 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2563 |
|
|
วันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๔๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมชุมนุมและได้รับบาดเจ็บ ณ บริเวณอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๗ พ.ย. ๖๓ ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีความห่วงใยต่อ ผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ และได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ ติดตาม ดูแลให้ ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ซึ่งตามจริงแล้วคณะทำงานฯ ไม่สามารถดูแลภายนอกอาคารรัฐสภาได้เนื่องจากมีการรักษาความปลอดภัยและ วางแนวป้องกันไว้อย่างแน่นหนา อย่างไรก็ตาม คณะทำงานฯ ได้รับความร่วมมือ อย่างดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลความเรียบร้อยจน สามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ จากรายงาน ของศูนย์เอราวัณ มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น ๕๕ คน โดยได้รับบาดเจ็บจาก แก๊สน้ำตา ๓๒ คน ถูกยิง ๖ คน มีอาการป่วยขณะชุมนุม ๔ คน และบาดเจ็บอื่น ๆ ๑๓ คน ซึ่งได้รักษาตัวใน รพ. ต่าง ๆ ได้แก่ รพ.วชิรพยาบาล ๓๗ คน รพ.พระมงกุฎเกล้า ๕ คน รพ.พระรามเก้า ๔ คน รพ.ราชวิถี ๔ คน รพ.รามาธิบดี ๑ คน รพ.เพชรเวช ๑ คน รพ.กลาง ๑ คน รพ.เลิดสิน ๑ คน และ รพ.มิชชัน ๑ คน ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ได้กล่าวถึงการติดตามประธานรัฐสภา ลงพื้นที่โดยรอบอาคารรัฐสภา ซึ่งประธานรัฐสภา มีความห่วงใยทุกฝ่าย อย่างไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ชุมนุม และยังได้กำชับให้ดูแล และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างดีที่สุด โดยประธานรัฐสภา ได้ขอบคุณ ทุกฝ่ายที่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ จากการที่มีการ ใช้อาวุธที่รุนแรงในการชุมนุม จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยกันสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การใช้อาวุธว่ามาจากฝ่ายใด เนื่องจากก่อให้เกิดความรุนแรงและอาจนำมา ซึ่งความสูญเสียได้ สำหรับการลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้ (๑๘ พ.ย. ๖๓) ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและเคารพในกติกาประชาธิปไตย ผ่านกลไกของรัฐสภา และขอให้ระวังท่าทีในการแสดงออกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขัดแย้งขึ้น |
 |
 |
 |
 |
|