วันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๑๐ นาฬิกา ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม คนที่สาม รับยื่นหนังสือจากนายนิยม เวชกามา ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคณะ เพื่อขอให้คณะกรรมาธิการใช้อำนาจพิจารณา ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ กรณีที่ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจากการที่สำนักงาน พระพุทธศาสนา เป็นผู้ยื่นฟ้องอดีตพระพรหมดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ด้วยการรับเงิน จากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และได้มีการใช้เป็นประเด็นข่าวว่าเป็น เงินทอนวัด โดยขอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ ๑. การแถลงข่าวของนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต่อกรณีของอดีตเจ้าคุณพระพรหมดิลก โดยมิได้รู้เห็น และรับทราบถึงข้อเท็จจริงในการเนินการให้มีการลาสิกขาตามกฎหมาย ในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นั้น อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสิทธิขั้นพื้นฐาน ตามรัฐธรรมนูญของอดีตท่านเจ้าคุณพระพรหมดิลกและต่อพระภิกษุรูปที่เหลือ ซึ่งถูกจับกุมในวันเดียวกัน ๒. จะมีการกำหนดกรอบในการดำเนินการหากกฎหมายและกรอบทางพุทธบัญญัติ (พระวินัย) ต่อกรณีของอดีตท่านเจ้าคุณทั้ง ๗ รูป ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมและความเหมาะสม ที่สามารถ ดำเนินการโดยไม่กระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยและทั่วโลก ๓. พิจารณาดำเนินการต่อไปว่าหากคดีของอดีตท่านเจ้าคุณทั้ง ๗ รูป ลุล่วงไปถึง ศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะโจทก์ผู้ฟ้องร้องพระภิกษุหรืออดีตท่านเจ้าคุณเหล่านั้น จะดำเนินการรับผิดชอบ ต่อความเสียหายต่อตัวปัจเจกซึ่งก็คืออดีตท่านเจ้าคุณที่ถูกจับและความรู้สึกของ พุทธศาสนิกชนอันเป็นส่วนสาธารณะอย่างไร เพื่อให้เกิดข้อยุติต่อพุทธศาสนิกชน ที่ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว และเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระภิกษุผู้ถูกดำเนิน คดีต่อไป โดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะขอรับเรื่อง ดังกล่าวเข้าบรรจุในระเบียบวาระการประชุมคณะ กมธ. ในครั้งต่อไป เพื่อศึกษาและ พิจารณา พร้อมจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
|