วันอังคารที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๒๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด ๓ ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ คนที่หนึ่ง และ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกคณะ กมธ. รับยื่นหนังสือจาก นายสุบิน ป้อมโอชา ประธานที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์โคนม แห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อขอความอนุเคราะห์แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนม เนื่องจากสถานการณ์จากแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-๑๙ ส่งผลกระทบต่อ ตลาดผลิตภัณฑ์นม ทำให้ผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมได้ลดลง จึงทำให้ไม่สามารถรับซื้อน้ำนมโคของเกษตรกรได้ทั้งหมด ทางกลุ่มได้ขอให้ทางรัฐบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ ที่ชัดเจน ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยการนำ น้ำนมโคที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ไปแปรรูปผลิตบรรจุกล่องเป็นผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน (U.H.T) เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการที่ต้องนำน้ำนมโคไปเททิ้ง ปัจจุบันพบว่ามียอดคงเหลือ ผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ประมาณ ๓๐๐ กว่าล้านกล่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ ๒,๓๐๐ ล้านบาท ซึ่งมีความจำเป็นต้องจำหน่ายให้ได้ก่อนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหมดอายุ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยง โคนมมีรายได้ และสามารถดำรงอาชีพการเลี้ยงโคนมให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้ ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะทำการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับ ความเดือดร้อน เพราะนอกจากจะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในวงจรที่เป็นผู้เลี้ยงโคนมแล้ว ยังจะเป็นการ ช่วยเหลือเด็ก ให้ได้รับการบริโภคนมโรงเรียนถึง ๗.๒ ล้านคน และขอให้เชื่อมั่นว่า คณะ กมธ. จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วยความตั้งใจ และจะสะท้อนให้รัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ผลักดันให้รัฐบาลใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยการนำงบประมาณมาช่วยเหลือความเดือดร้อนของ ประชาชน เพื่อจะได้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
|