วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๔.๑๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว
ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อินทร์สุข โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ แถลงข่าว
ผลการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒๓/๒๕๖๓ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๐ ส.ค. ๖๓ และ ครั้งที่ ๒๔/๒๕๖๓
เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ ส.ค. ๖๓ ว่า คณะ กมธ. ได้ใช้เวลาในการพิจารณา
มาแล้วทั้งสิ้น ๒๒ วัน รวม ๑๗๘ ชั่วโมง จากจำนวนทั้งสิ้น ๒๓๗ ชั่วโมง
ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว จำนวน ๑๕ กระทรวง ๓ กลุ่มหน่วยงาน
และ ๑๖ กองทุน คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๓ จากหน่วยงานทั้งสิ้น ๒๐ กระทรวง
๙ กลุ่มหน่วยงาน ๒๖ กองทุน และ ๑๔ แผนบูรณาการโดยกระทรวงที่คณะ กมธ.
ได้พิจารณางบประมาณแล้ว ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัล

เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการพิจารณางบประมาณในภาพรวมของ
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น คณะ กมธ. ได้แสดง
ความเห็นเกี่ยวกับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย

ซึ่งขณะนี้ติดอันดับโลกโดยมีการเสนอแนะว่ากระทรวงฯ ไม่ควรใช้วิธีการสงเคราะห์
ให้การช่วยเหลือเฉพาะผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น เพราะเป็นการดูหมิ่น
และสร้างความไม่เท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ โดยแนวทางแก้ไขปัญหาความ
เหลื่อมล้ำ คือ ควรทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการที่ให้ประชาชนทุกคน
มีสิทธิเท่าเทียมกันในการรับสวัสดิการจากภาครัฐ ทั้งนี้ การช่วยเหลือ
ของภาครัฐไม่ควรพิจารณาว่าประชาชนต้องมีความยากจนจึงจะช่วยเหลือ
เท่านั้น แต่ประชาชนทุกคนควรได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกัน