วันศุกร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ แถลงข่าว แนวทาง พรรคก้าวไกลต่อการตั้งคณะ กมธ. รับฟังปัญหานักเรียน นิสิต และนักศึกษาของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการส่งรายงานดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์ หากนายกรัฐมนตรียังไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นอย่างแท้จริง ดังนั้นการตั้งคณะ กมธ. วิสามัญ จึงไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด แต่เป็นการใช้กลไกของรัฐสภาเพื่อถ่วงเวลา สำหรับข้อเรียกร้องของ นักศึกษาทั้ง ๓ ข้อ คือ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่าปัจจุบันยังมีการ ข่มขู่ คุกคาม และดำเนินคดีกับประชาชนที่เห็นต่างอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่เปิดโอกาส ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเห็นว่า สภามีกลไกของคณะ กมธ. สามัญ ประจำสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว คือ คณะ กมธ. การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การตั้งคณะ กมธ. วิสามัญจึงเป็นการทำงานที่ซับซ้อนกัน และเป็นการใช้เสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาลกดดันการทำงานของฝ่ายค้าน และทำให้การแก้ไขปัญหา ช้าลงไปอีก เพราะคู่ขัดแย้งของนักศึกษามิใช่รัฐสภา แต่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องลงมารับฟังปัญหา และแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ จากนั้น นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ในฐานะประธานคณะ กมธ. การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน กล่าวว่า กมธ.การพัฒนาการเมืองได้ดำเนินการรับฟัง ความคิดเห็นของนักศึกษามาโดยตลอด และได้เชิญตัวแทนนักศึกษามาพูดคุย ร่วมให้ข้อคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะเพื่อสะท้อนปัญหาตั้งแต่แฟลชม๊อบครั้งที่แล้ว แต่การต้องชะลอการทำงานลงไปเนื่องจาก สถานการณ์โควิด-๑๙ และคณะกมธ. จะลงพื้นที่สังเกตการณ์เพื่อรับฟังปัญหาของนักศึกษาในทุกเวที เพื่อทำให้ปัญหาของนักศึกษาได้รับการรับฟังจากรัฐบาล และขอเรียกร้องให้รัฐบาลจริงใจในการรับฟัง ปัญหา และเปิดพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อให้นักศึกษาและประชาชนมีพื้นที่และเวทีในการแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เกิดการรับฟังปัญหาที่แท้จริง หากนักเรียน นักศึกษาคนใดที่ถูกกดดันจากเจ้าหนี้รัฐ สามารถ ส่งเรื่องร้องเรียนมายังคณะกมธ. ได้ กมธ. จะอยู่เคียงข้างกับประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ เพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
|