วันพุธที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๒.๔๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ และคณะ แถลงข่าวผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง "สภาพปัญหาและแนวทางส่งเสริมและคุ้มครอง กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย" ในประเด็นการบังคับใช้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ได้กำหนดให้ กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัย หรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแต่ละแห่ง ให้แล้วเสร็จภายใน ๒๔๐ วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวบังคับใช้ ทั้งนี้ คณะ กมธ. มีความเห็นว่า การสำรวจการถือครองที่ดินดังกล่าวมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ประมาณ ๔,๐๐๐ หมู่บ้าน โดย ส่วนใหญ่เป็นประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองซึ่งอยู่อาศัยและทำกินมาเป็น เวลานานก่อนมีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และจากการลงพื้นที่พบว่ามีประชาชน จำนวนมากไม่ทราบและไม่ได้เข้าร่วมการสำรวจตามกฎหมายดังกล่าว ทำให้มีผู้ตกหล่น จากการสำรวจ มีการซ้ำซ้อนทั้งรายชื่อบุคคล และพื้นที่ที่แจ้งสำรวจ ส่งผลให้การสำรวจ ยังไม่สมบูรณ์และครบถ้วน อีกทั้งการกำหนดระยะเวลาให้สำรวจแล้วเสร็จภายใน ๒๔๐ วัน นั้น เป็น "ระยะเวลาเร่งรัด" ซึ่งหากไม่กระทำการหรืองดกระทำการหรือกระทำ การล่าช้า จะไม่ส่งผลให้การกระทำนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ไม่มีความผิด และ ประชาชนไม่ถูกตัดสิทธิ ซึ่งแตกต่างจาก "ระยะเวลาบังคับ" ที่ต้องทำภายในระยะเวลา ที่กำหนดเท่านั้น ดังนั้น คณะ กมธ. จึงเสนอให้ขยายเวลาการสำรวจที่ดินออกไปเพื่อ ให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนต่อไป
|