วันพฤหัสบดีที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นางไซหนับ ยะหมัดยะ ผู้ประสานงานเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ต่อการปิดกั้นการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สืบเนื่องจากทาง ศอ.บต เป็นองค์กรหลักในการผลักดันโครงการจะนะฯ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ ๒๑ ม.ค. ๖๓ ที่ให้พื้นที่ ดังกล่าว เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ และโครงการนี้จะทำให้พื้นที่ริมทะเลลึกเข้ามาถึง บนบกของ ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน และ ต.สะกอม เป็นนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของเอกชนรายเดียว คือ บริษัท ทีพีไอโพลีนพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) จำนวน ๑๖,๗๕๓ ไร่ นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือ น้ำลึกขนาดใหญ่อีก ๓ ท่าเรือ ซึ่งจะมีทั้งเรือสินค้า เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมัน และ เป็นอู่ซ่อมเรือเดินสมุทร มาตั้งในพื้นที่ ๓ ตำบลดังกล่าวด้วย ทั้งหมดนี้จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลง วิถีชีวิตของประชาชนขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.จะนะ รวมถึง จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและไม่อาจจะหวนกลับมาได้ ดังนั้นกระบวนการมีส่วนร่วมในการ คิดและตัดสินใจโดยประชาชนอย่างกว้างขวางจึงมีความสำคัญมาก แต่ในความเป็นจริงนั้น การมีส่วนร่วมของประชาชนที่จัดขึ้นโดย ศอ.บต. มีข้อจำกัดอย่างมากเข้าลักษณะของการปิดกั้น การมีส่วนร่วมอย่างผิดปกติ ทั้งยังมุ่งใช้รูปแบบของกระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเพียงพิธีกรรม ในการผลักดันโครงการเท่านั้น ดังนั้น เครือข่ายฯ ในฐานะองค์กรประสานงานกลางของภาคประชาชน อ.จะนะ จึงขอเรียกร้องต่อคณะ กมธ. ให้ตรวจสอบการดำเนินงานของ ศอ.บต. ภายใต้โครงการ จะนะฯ ดังนี้ ๑. ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจ บทบาทหน้าที่ การตั้งกลไกคณะทำงาน และการใช้งบประมาณ ของ ศอ.บต. ในโครงการนี้ว่ามีความเหมาะสม เป็นกลาง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างไรหรือไม่ ๒. ขอให้ตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานทั้งหมดที่ผ่านมา โดยเฉพาะเวทีชุมชน และเวทีต่าง ๆ ที่ได้จัดไปแล้วว่า มีเจตนาปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ๓. ประสานงานให้มีการทบทวนการจัดเวทีในวันที่ ๑๑ ก.ค. ๖๓ ออกไปก่อน ทั้งนี้เพื่อให้มีการ ตรวจสอบตามข้อเสนอที่ ๒ เสียก่อนว่า ยังมีเจตนาปิดกั้นการมีส่วนร่วมหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบมติ ครม. ที่ให้ อ.จะนะ เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจทั้ง ๒ ครั้งว่า การอนุมัติโครงการนี้ดำเนินการภายใต้กระบวนการ มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงหรือไม่ และหากพบว่ามีความผิดปกติก็ขอให้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ ๒๑ ม.ค. ๖๓ ไปก่อน หลังจากนั้นจึงจัดกระบวนการมีส่วนร่วมที่เป็นจริง เพื่อพิจารณาอนาคตของ อ.จะนะ ไปสู่การพัฒนา ที่ยั่งยืนต่อไป มากกว่าที่จะพัฒนาบนฐานอุตสาหกรรมที่จะสร้างความเสียหายต่อทั้งวิถีชีวิต สุขภาพ และ สิ่งแวดล้อมอย่างไม่อาจนำกลับคืนมาได้ ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา กล่าวว่า เวทีการรับฟังของ ศอ.บต. เกิดขึ้นในช่วงที่มีการต่ออายุ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้ประชาชนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา มีการใช้กฎหมายพิเศษจนทำให้เกิดโครงการลักษณะที่ประชาชนถูกปิดกั้นการมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็น ซึ่งหากมีโครงการเกิดขึ้นประชาชนย่อมได้รับผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ. การพัฒนาการเมืองฯ ต่อไป
|