วันอาทิตย์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๖.๑๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันจุดยืนพรรคร่วมฝ่ายค้านในการลงมติ พ.ร.ก. ทั้ง ๓ ฉบับ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านยึดหลักการที่ว่า หาก พ.ร.ก. ใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดย ไม่เสียหลักการของพรรคร่วมฝ่ายค้านยินดีที่จะสนับสนุน เพื่อประชาชนจะได้ประโยชน์ สำหรับ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ เป้าหมายคือกู้เงินเพื่อนำมาช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ นำมาฟื้นฟู เศรษฐกิจของประเทศ และปรับปรุงระบบสาธารณสุขให้มีความเข้มแข็ง แม้ พ.ร.ก. ฉบับนี้ จะยังมีข้อบกพร่องในประเด็นระบบการตรวจสอบการใช้เงิน และมาตรการการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยังไม่เห็นผลในทางปฏิบัติ แต่เห็นว่าอย่างน้อยประชาชนจะได้ประโยชน์จาก พ.ร.ก. จากการ ได้รับเงินเยียวยา ประชาชนจะได้มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงสนับสนุน โดย การงดออกเสียง ส่วน พ.ร.ก. ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจฯ เป้าหมายคือการช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับความเดือดร้อน แม้กระบวนการการใช้เงิน อาจจะ ไม่กระจายไปถึงSMEs ขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากเงื่อนไขที่ตั้งไว้ อีกทั้งไม่มีกระบวนการ ในการตรวจสอบ แต่พ.ร.ก. ฉบับนี้ ประชาชนที่เป็น SMEs ก็ยังได้รับประโยชน์ พรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงสนับสนุนด้วยการงดออกเสียงเช่นเดียวกับ พ.ร.ก. ฉบับแรก ด้าน พ.ร.ก. รักษาเสถียรภาพของ ระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจฯ นั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านมีข้อกังวลใจหลายประการ และเป้าหมายของ พ.ร.ก. ฉบับนี้ไม่ใช่ผู้เดือดร้อนโดยตรง แต่เป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้ลงทุน เจ้าของตราสารหนี้ ที่ไม่ใช่ผู้เดือดร้อนที่แท้จริง จึงไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบออกเป็น พ.ร.ก. และ หลักการของ พ.ร.ก. ฉบับนี้ อาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขาดความเชื่อมั่น สร้างบรรทัดฐานที่ผิด และจะส่งผลเสียหายในระยะยาวต่อ ธปท. พรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงไม่สนับสนุนด้วยการออกเสียงไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า คะแนนของ พ.ร.ก. ฉบับที่ ๑ และ ๒ ต่างจากฉบับที่ ๓ เนื่องจาก พรรคเสรีรวมไทยนั้น มีจุดยืน ที่ชัดเจนว่าไม่รับสถานะของนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการเสนอ กฎหมายใด ๆ จากนายกรัฐมนตรี พรรคเสรีรวมไทย จึงงดออกเสียงทั้ง ๓ ฉบับ เมื่อ สอบถามถึงแนวโน้มการตั้งคณะ กมธ. วิสามัญติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากการ กู้เงินตาม พ.ร.ก. ทั้ง ๓ ฉบับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะตั้ง เห็นได้จากท่าทีของนายกฯ ที่ได้กล่าวภายหลังการลงมติ พ.ร.ก. ทั้ง ๓ ฉบับ ว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาชิกฯ ที่ต้องมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ ชัดเจน และโปร่งใส โดยหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลเองจะสนับสนุนให้มีการตั้งคณะ กมธ. วิสามัญ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน
|