วันศุกร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑

อาคารรัฐสภา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นายวรภพ วิริยะโรจน์

และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าว

การเสนอ ร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต (พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า)

เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแปรรูปผลผลิต

ทางการเกษตร อันเป็นหนึ่งในกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

โดยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากปัญหาเชื้อไวรัสโควิด - ๑๙ นั้น

แนวทางการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ มี ๒ แนวทาง คือ การสนับสนุนงบประมาณ

และการแก้ไขข้อบังคับ รวมทั้งกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งพรรคก้าวไกล

ขอเสนอแนวทางการแก้ไขกฎหมายและคลายข้อบังคับอันเป็นอุปสรรคต่อ

การประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ของประชาชน และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก

ซึ่งจากประสบการณ์ในการลงพื้นที่ต่าง ๆ พบว่า การผลิตสุราเป็นภูมิปัญญา

และเป็นอัตลักษณ์อันหลากหลายในแต่ละท้องถิ่นของไทย โดยตลาดสุรา

และเบียร์มีมูลค่า ๓ แสนล้านบาท แต่กลับกระจุกตัวอยู่ที่ผู้ผลิตรายใหญ่

และมีเพียงแค่ร้อยละ ๑ เท่านั้น ที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย

ดังนั้น การปลดล็อกครั้งนี้ จะเพิ่มมูลค่าส่วนแบ่งของตลาดรายย่อยได้เต็มร้อย

และคาดว่าภายใน ๑๐ ปี หลังจากปลดล็อกตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้

จะทำให้ตลาดคราฟท์เบียร์รายย่อยเติบโตเป็นร้อยละ ๕ ของตลาดเบียร์

 

ดังนั้น จึงขอเสนอให้แก้ไขมาตรา ๑๕๓ ของ พ.ร.บ. ดังกล่าว จำนวน ๓ ส่วน ดังนี้
๑. เพิ่มคำว่า "การค้า" ต่อจากข้อความเดิม "ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุรา" เป็น "ผู้ใด
ประสงค์จะผลิตสุราเพื่อการค้า”
๒. เพิ่มบทห้ามกำหนดเกณฑ์ กำหนดกำลังการผลิต จำนวนคนงาน และเงินทุน

เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้ามาอยู่ในธุรกิจสุรา ซึ่งเป็นการเปิดโอกาส

และสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน อันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎกระทรวง

การอนุญาตผลิตสุรา ๒๕๖๐ ที่เคยกำหนดขั้นต่ำในการทำสุราประเภทต่าง ๆ อาทิ

การขออนุญาตผลิตเบียร์ที่ต้องมีขั้นต่ำ ๑๐ ล้านลิตร การผลิตสุราขาวที่จำกัด

ไม่เกิน ๕ แรงม้า และ ๗ แรงคน การปรุงแต่งสุรา และการบ่มสุรา 
๓. การอนุญาตให้การทำสุราเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน