วันศุกร์ที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา

นพ.สุกิจ  อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงความพร้อมในการจัดประชุม

สภาผู้แทนราษฎร โดยจะใช้ห้องประชุมสุริยัน เป็นสถานที่ประชุมสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งในขณะนี้

ห้องประชุมสุริยันเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมีความพร้อมทั้งระบบเสียง ระบบโสตทัศนูปกรณ์ ระบบ

การลงคะแนน รวมไปถึงห้องประชุมคณะกรรมาธิการทั้ง ๓๕ คณะ ห้องทำงานคณะ กมธ. วิสามัญ   

ห้องพิจารณางบประมาณ ห้องทำงานประธาน ห้องทำงานพรรคการเมือง ห้องรับรองสมาชิกฯ และ         

ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ โดยจะเริ่มเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่าง ๆ จากที่ทำการเดิม มายังอาคารรัฐสภา

ฝั่งสภาผู้แทนราษฎร ต้นเดือน พ.ค. นี้ ส่วนห้องทำงาน ส.ส. จำนวน ๕๐๐ ห้อง ที่จอดรถจำนวน

๒,๐๐๐ คัน จะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. ๖๓ สำหรับห้องทำงานของพรรคการเมืองนั้น ทางคณะ กมธ.

กิจการสภาผู้แทนราษฎรจะประสานไปยังพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อให้เข้ามาเตรียมความพร้อม

สำหรับการใช้งาน ทั้งนี้ ภาพรวมการก่อสร้างอาคารรัฐสภานั้น มีความคืบหน้าร้อยละ ๗๒ และตาม

สัญญาการขยายเวลาการก่อสร้างรอบที่ ๔ นั้น จะสิ้นสุดลงในวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๓ คาดว่าจะแล้วเสร็จ

ร้อยละ ๑๐๐ ตามสัญญาที่กำหนด สำหรับวิธีการประชุมสภาฯ นั้น จำเป็นต้องยึดถือตามหลัก

รัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาฯ คือต้องยึดถือเรื่ององค์ประชุมเป็นหลัก จึงยังคงต้องใช้

วิธีการประชุมที่ห้องประชุมสุริยัน อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะต้องมีการนับองค์ประชุมในการ

ลงมติวาระสำคัญ อาทิ การพิจารณา พ.ร.ก. และพ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ จึงไม่สามารถ

ใช้การประชุมออนไลน์ได้ตามที่สมาชิกฯ หลายท่านเสนอความเห็นมา โดยจะมีมาตรการ      

อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-๑๙  เช่นการคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย

ก่อนเข้ามายังบริเวณอาคารรัฐสภา ต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย และ

ใช้การจัดที่นั่งในห้องประชุมโดยเว้นระยะห่างของเก้าอี้นั่ง ตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม

สำหรับมาตรการเสริมที่จะนำมาใช้ในสภาฯ นั้น ต้องรอดูสถานการณ์ของประเทศก่อนว่ามีแนวโน้ม

และมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ตลอดจนนโยบายต่าง ๆ จากรัฐบาล ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง โดย

เฉพาะการผ่อนปรนเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด หากมีการผ่อนปรน ก็ไม่จำเป็นต้องมีการกักตัว

สมาชิกฯ ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ภาพรวมอีกครั้งก่อน

      ส่วนประเด็นการบริจาคเงินหรือหักเงินเดือนสมาชิกฯ เพื่อช่วยเหลือเรื่องโควิด-๑๙ นั้น

ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้บังคับสมาชิกฯ แต่อย่างไร แล้วแต่ความประสงค์ของสมาชิกฯ

แต่ได้ทำเป็นตัวอย่างให้สมาชิกฯ ได้เห็นโดยการรวบรวมเงินส่วนตัวและคณะทำงานประธาน

เพื่อบริจาคช่วยเหลือ รพ. ต่าง ๆ และหากสมาชิกฯ มีความประสงค์จะให้หักเงินเดือน สามารถ

ทำหนังสือแจ้งความจำนงมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการต่อไป