วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๒.๔๕ นาฬิกา
ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการ

การเงิน การคลัง แถลงผลการประชุมคณะอนุกรรมาธิการซึ่งที่ประชุม
มีข้อเสนอแนะและข้อสังเกตต่อมาตรการการเยียวยาด้านเศรษฐกิจ
ของรัฐบาล ต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสถานการณ์การระบาดของ
โรค COVID-19  ดังนี้
๑. มาตรการเยียวยาด้านไฟฟ้า ซึ่งมีความเข้าใจผิดว่าเป็นค่ามิเตอร์ไฟฟ้า แต่เป็น
ค่าไฟฟ้าที่มีการเก็บล่วงหน้า ซึ่งเป็นมาตรการในการเยียวยาผู้ประกอบการ
และประชาชน แต่ต้องมีการคืนเงินอย่างรวดเร็ว และมีขั้นตอน
ในการขอรับคืนเงินที่ไม่ยุ่งยาก หรือจะใช้การคืนเงินโดยลดค่าไฟฟ้า
รายเดือนให้กับผู้ประกอบการและประชาชน ตั้งแต่เดือน มี.ค. – เม.ย.
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน
๒. มาตรการเลื่อนการยื่นภาษีออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งมาตรการดังกล่าว
คณะอนุกรรมาธิการเห็นว่าไม่ตรงเป้าหมายและผู้ที่เดือดร้อน
ไม่ได้รับประโยชน์โดยตรง เนื่องจากผู้ที่เดือดร้อนคือ
ประชาชนที่ว่างงานจากมาตรการการปิดสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า

ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐควรยกเว้นการยื่นภาษีในปี ๒๕๖๓ ออกไป และให้ไปเสียภาษี
รวบยอดในปี ๒๕๖๔ และรัฐควรจ่ายเงินให้ประชาชนด้วยมาตรการ
Helicopter  Money คือจ่ายเงินให้ประชาชนทุกคนที่ได้รับ
ความเดือดร้อน ผ่านระบบพร้อมเพย์โดยเร่งจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว
๓. เร่งจ่ายเงินงบประมาณปี ๒๕๖๓ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
๔. มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ขอความร่วมมือ
ธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเป็นมาตรการที่ดีแล้ว

ทั้งนี้ ควรหาแนวทางในการให้สินเชื่อบุคคลธรรมดา (Personal Loan)
เพื่อให้ประชาชนที่เดือดร้อนและขัดสนเงิน และควรมีมาตรการ
ผ่อนปรนและลดความเข้มงวดในการจ่ายสินเชื่อลง เนื่องจากประชาชน
ขาดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ
๕. ขอให้ประชาชนไม่หวั่นไหวกับ COVID-19 ขอให้
ทุกคนมีความหวัง กลไกรัฐต้องช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ